ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวกเล็กน้อย 8.68 จุด ท่ามกลาง “ทรัมป์” เดินหน้าเก็บภาษีสินค้าจีน ด้านตลาดหุ้นยุโรปเพิ่มขึ้นเช่นกัน ราคาน้ำมัน WTI ขยับขึ้น 40 เซนต์ ปิดที่ 68.99 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดตลาดวันที่ 14 กันยายน 2561 ที่ 25,514.67 จุดเพิ่มขึ้น 8.68 จุด หรือ 0.03% ด้วยแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มผู้ผลิตไมโครชิปและหุ้นกลุ่มการเงิน แต่การปรับตัวของตลาดถูกจำกัดจากรายงานข่าวว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เดินหน้าสนับสนุนให้มีการเรียกเก็บภาษีจากสินค้านำเข้าของจีนมูลค่า 200 พันล้านดอลลาร์ในอัตรา 25% แม้ยังไม่มีกำหนดระยะเวลาที่ชัดเจน ขณะที่นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐได้ส่งจดหมายไปยังจีนเพื่อเชิญให้ร่วมการเจรจาการค้ารอบใหม่และจีนได้ตกลงรับคำเชิญแล้ว
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ที่ปรับขึ้นแตะระดับ 3% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 2 สิงหาคมที่ผ่านมา
หุ้นเอเอ็มดี เพิ่มขึ้น 7.35% หลังจากนักวิเคราะห์ปรับราคาเป้าหมายเป็น 40 ดอลลาร์ต่อหุ้น ส่วนหุ้นยูไนเต็ด เทคโนโลยีส์ คอร์ปเพิ่มขึ้น 1.68%
หุ้นโบอิ้งเพิ่มขึ้น 1.22%
หุ้นมอร์แกน สแตนเล่ย์เพิ่มขึ้นราว 1% หุ้นโกล์แมนแซคส์เพิ่มขึ้น 0.4% หุ้นแบงก์ออฟอเมริกาเพิ่มขึ้น 0.8%
หุ้นแอปเปิลลดลง 1.14%
ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,904.98 จุด ลดลง 0.80 จุด, -0.028,
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,010.04 จุด ลดลง 3.67 จุด,-0.05 %
ทางด้านตลาดยุโรปปิดบวก ตามทิศทางการปรับตัวขึ้นของตลาดหลักในเอเชีย และจากแรงหนุนของการเปิดการเจรจาการค้ารอบใหม่ของสหรัฐกับจีน อย่างไรก็ตามหุ้นกลุ่มการเงินได้รับแรงกดดันจากหุ้นธนาคาร Danske Bank ลดลงแรงจาก รายงานข่าวว่าถูกทางการสหรัฐสอบสวนเรื่องฟอกเงิน
หุ้น Danske Bank ลดลง 1.05%
ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 7,304 จุด เพิ่มขึ้น 22.47 จุด, +0.31%
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 377.85 จุด เพิ่มขึ้น 1.33 จุด,+0.35%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,352.57 จุด เพิ่มขึ้น 24.45 จุด,+0.46%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,124.33 จุดเพิ่มขึ้น 68.78 จุด 0.57,%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนตุลาคมเพิ่มขึ้น 40 เซนต์ปิดที่ 68.99 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายนลดลง 9 เซนต์ปิดที่ 78.09 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล