GLOBAL กำไร 1,163 ลบ. Q1/65 โตเกือบ 20% กวาดรายได้เพิ่ม

HoonSmart.com>> “สยามโกลบอลเฮ้าส์” เปิดงบไตรมาส 1/65 กำไรสุทธิ 1,163 ล้านบาท เติบโต 19.69% จากงวดปีก่อน กระตุ้นยอดจำหน่ายสินค้า หนุนรายได้รวมเพิ่มขึ้นแตะ 9,805 ล้านบาท ยอดขายเพิ่มขึ้น 11% จากสาขาเดิมและเปิดสาขาเพิ่ม 3 แห่ง ทั้งควบคุมต้นทุนการดำเนินงานได้ดี

บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ (GLOBAL) เปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 1/2565 มีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นใหญ่จำนวน 1,156.56 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.2513 บาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 965.77 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.2099 บาท

สำหรับกำไรสุทธิรวมมีจำนวน 1,163.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 191.36 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 19.69% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และหากเปรียบเทียบกับยอดขายคิดเป็น 12.08% ของยอดขาย โดยมีรายได้รวม 9,805.13 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน จำนวน 976.78 ล้านบาท หรือ 11.06% ประกอบด้วย รายได้จากการขาย 9,633.69 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 954.98 ล้านบาท หรือ 11.00% เป็นผลมาจากยอดขายของสาขาเดิมที่เพิ่มขึ้น และการเปิดสาขาใหม่เพิ่ม 3 สาขา

นอกจากนี้มีรายได้อื่นจำนวน 171.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.81 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 14.57% เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการบริหารคลังสินค้าของศูนย์กระจายสินค้าวังน้อย และรายได้ส่งเสริมการขาย

บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นจำนวน 2,516.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน จำนวน 306.31 ล้านบาท หรือ 13.86% และคิดเป็นอัตรา 26.12% ของรายได้จากการขาย ซึ่งมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น 0.65% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องมาจากการปรับสัดส่วนและกระตุ้นยอดขายสินค้ากลุ่ม House Brand ส่งผลให้บริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจากระยะเวลาเดียวกันของปี 2564

ด้านต้นทุนในการจัดจำหน่ายและค่าใช้จ่ายการบริหาร (ไม่รวมค่าเสื่อมราคา, กำไร(ขาดทุน)จากอัตราแลกเปลี่ยนที่ไม่เกิดขึ้นจริงและ กำไร(ขาดทุน)จากเงินลงทุนชั่วคราวที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง) จำนวน 932.19 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน จำนวน 112.93 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 13.78% โดยค่าใช้จ่ายดังกล่าวคิดเป็น 9.68% ของยอดขาย เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายกลุ่มเงินเดือนพนักงาน ของสาขาที่เปิดใหม่ 3 สาขา

นอกจากนี้มีต้นทุนทางการเงินจำนวน 45.11 ล้านบาท ลดลงจากจากงวดเดียวกันของปีก่อนจำนวน 3.15 ล้านบาท หรือลดลง 6.53% เนื่องจากบริษัทฯได้ชำระคืนเงินกู้ยืมระยะสั้นและระยะยาวจากสถาบันการเงินเป็นผลให้ดอกเบี้ยจ่ายลดลง