ผถห. LEO โหวตหนุนปันผล 0.18 บาท XD 9 พ.ค. ออกหุ้นกู้แปลงสภาพพ่วงวอร์แรนต์ฟรี

HoonSmart.com>> ผู้ถือหุ้น “ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์” โหวตผ่านทุกวาระอนุมัติปันผลงวดครึ่งหลังปี 64 หุ้นละ 0.18 บาท จ่ายเงิน 26 พ.ค.นี้ พร้อมออกหุ้นกู้แปลงสภาพ มูลค่า 255 ล้านบาท จัดสรรผู้ถือหุ้นเดิมอัตรา 1,255 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นกู้แปลงสภาพ พ่วง LEO-W1 ฟรี อัตรา 1 หุ้นกู้แปลงสภาพต่อ 100 วอร์แรนต์ ฟาก CEO ลั่นเดินหน้าต่อยอดธุรกิจผ่านกลยุทธ์การ M&A ร่วมมือกับพันธมิตร รุกขยายบริการจากธุรกิจหลัก หนุนผลงานปีนี้โตทะยาน 30-35%

เกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์

นายเกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ (LEO) เปิดเผยว่า ที่ประชุมสามัญประจำปี 2565 มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.25 บาท ของจำนวนหุ้น 320 ล้านหุ้น คิดเป็นเงินปันผลจ่ายทั้งสิ้น 80 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากงวดดำเนินการวันที่ 1 ม.ค.2564 ถึงวันที่ 30 มิ.ย.2564 ในอัตราหุ้นละ 0.07 บาทให้แก่ผู้ถือหุ้นแล้ว ดังนั้นคงเหลือเงินปันผลที่จ่ายในคราวนี้อีกหุ้นละ 0.18 บาทจากงวดดำเนินการวันที่ 1 ก.ค.2564 ถึง 31 ธ.ค.2564 บริษัทฯ ได้กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับเงินปันผลในวันที่ 10 พ.ค.2565 และกำหนดจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นในวันที่ 26 พ.ค.2565

ที่ประชุมยังได้อนุมัติการออกและเสนอขายหุ้นกู้แปลงสภาพที่ออกใหม่ของบริษัท และให้สิทธิแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญจำนวนทั้งสิ้นไม่เกิน 255 ล้านบาท ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรการถือหุ้นโดยไม่จัดสรรให้ผู้ถือหุ้นที่จะทำให้บริษัทฯมีหน้าที่ตามกฎหมายต่างประเทศ ในอัตราส่วนการจัดสรร 1,255 หุ้นเดิมต่อ 1หน่วยหุ้นกู้แปลงสภาพ ราคาเสนอขาย 1,000 บาทต่อ 1 หน่วยหุ้นกู้แปลงสภาพ มูลค่าที่เสนอขายรวมทั้งสิ้นไม่เกิน 255 ล้านบาท โดยให้อัตราดอกเบี้ย 5.75% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือน โดยหุ้นกู้ที่ออกในครั้งนี้จะมีอายุ 1 ปี 9 เดือน และผู้ถือหุ้นทุกรายสามารถจองซื้อเกินสิทธิได้ โดยบริษัทฯจะจัดสรรให้ตามจำนวนการใช้สิทธิของผู้ถือหุ้น

รวมทั้งอนุมัติการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ ครั้งที่ 1 (LEO-W1) จำนวนไม่เกิน 25.50 ล้านหน่วย ให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ที่จองซื้อและได้รับจัดสรรหุ้นกู้แปลงสภาพที่เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นตามสัดส่วนจำนวนหุ้นที่ผู้ถือหุ้นแต่ละรายถืออยู่ โดยไม่คิดมูลค่าในอัตราส่วน 1 หน่วยหุ้นกู้แปลงสภาพ ต่อ 100 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ ครั้งที่ 1 (LEO-W1) โดยใบสำคัญแสดงสิทธิดังกล่าวมีอายุ 2 ปี นับจากวันที่ได้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ มีอัตราการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วยต่อหุ้นสามัญ 1 หุ้น และมีราคาการใช้สิทธิเท่ากับ 22 บาทต่อหุ้น (ยกเว้นกรณีการปรับราคาใช้สิทธิ)

ตลอดจนอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ จากเดิม 160 ล้านบาท เป็น 181.25 ล้านบาท โดยออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 42.50 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท รวมเป็น 21.25 ล้านบาท เพื่อรองรับการใช้สิทธิแปลงสภาพของหุ้นกู้แปลงสภาพเป็นจำนวน 17 ล้านหุ้น และเพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ ครั้งที่ 1 (LEO-W1) เป็นจำนวนไม่เกิน 25.50 ล้านหุ้น

การออกหุ้นกู้ในครั้งนี้จะทำให้ทาง LEO มีฐานการเงินที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และมีเงินทุนมากเพียงพอที่จะใช้ในการลงทุนเพื่อขยายงานและการ M&A ที่กำลังจะเกิดมากขึ้นในอนาคต และแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการวางแผนทางการเงินและหาแหล่งเงินทุนที่หลากหลายของทางบริษัทฯ โดยเฉพาะในช่วงนี้ ที่ทางสถาบันการเงินเริ่มที่เข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อและเป็นภาวะขาขึ้นของอัตราดอกเบี้ย

“แผนการดำเนินธุรกิจบริษัทฯ ยังคงเดินหน้าที่การเข้าร่วมลงทุนกับพันธมิตรทางธุรกิจทั้งในประเทศและกลุ่มประเทศ ASEAN โดยสร้างการเติบโตทางธุรกิจผ่านแผนการทำข้อตกลงซื้อและควบรวมกิจการ (M&A) นอกเหนือจากบริษัท เวิร์ลแอร์ โลจิสติกส์ จำกัด และสร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดดให้กับบริษัทตามแผนงาน และเป็นการเตรียมพร้อมในการเพิ่มเงินทุนหมุนเวียนเพื่อรองรับการขยายตัวที่ตั้งเป้าในการเติบโตไว้ 30-35% ที่ 4,700-4,800 ล้านบาท ในปี 2565 “นายเกตติวิทย์ กล่าว

นอกจากนี้ ยังรุกขยายการให้บริการธุรกิจของบริษัทฯ ในส่วนอื่นเพิ่มเติม เช่น การเปิดให้บริการ LEO Self-Storage#2 China Town และบริการลานรับฝากเก็บตู้คอนเทนเนอร์แห่งที่สองจะตั้งอยู่ถนนบางนา กม. 21 โดยปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนปรับปรุงพื้นที่และคาดจะพร้อมให้บริการในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2565 รวมทั้งขยายธุรกิจโดยการร่วมมือกับพันธมิตร “China Post” ซึ่งมีแผนที่จะเพิ่ม Capacity ของสายการบิน China Post Airline ที่บินระหว่างกรุงเทพ- คุนหมิง โดยเพิ่มเที่ยวบินและนำเครื่องบินขนาดที่ใหญ่ขึ้น เพื่อเป็นการสนับสนุนนโยบายของภาครัฐที่ต้องการผลักดันและส่งเสริมการเพิ่มยอดการส่งออกผลไม้ไทยไปยังประเทศจีนให้มากขึ้น รวมถึงโครงการขนส่งสินค้าโดยรถไฟจากประเทศจีนมายังลาว ทางบริษัทฯ สามารถเริ่มให้บริการได้ในเดือนพฤษภาคมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ความสำเร็จจากโครงการทั้งหมดนี้ ยิ่งตอกย้ำว่า LEO เป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์อย่างครบวงจรที่มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดได้อย่างแท้จริง