หุ้นเช้านี้บวก 2.41 จุด เก็งงบ Q1/65, สถานการณ์โควิดในจีนดีขึ้น

HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นเช้านี้บวก 2.41 จุด ตลาดยังมีตัวถ่วงจากสถานการณ์ยูเครน-นโยบายการเงินของเฟด แต่ได้อานิสงส์จากเก็งงบไตรมาส 1/65 และการแพร่ระบาดโควิดในจีนดีขึ้น พร้อมมองดัชนีฯ อยู่ในโซนแนวรับ 1650-1660 จุด ทำให้การลงทุนในระยะนี้ ต้องใช้ความระมัดระวัง เนื่องจากตลาดหุ้นไทยจะหยุดยาว-มีประชุม FOMC พุธหน้าด้วย

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์วันที่ 29 เม.ย.2565 ณ เวลา 10.03 น. อยู่ที่ระดับ 1,670.15 จุด เพิ่มขึ้น 2.41 จุด หรือ +0.14% มูลค่าซื้อขาย 5,713.20 ล้านบาท

บล.เคทีบีเอสที ประเมินดัชนีฯ ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ตลาดยังมีตัวถ่วงจากสถานการณ์ยูเครน และนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แต่ได้อานิสงส์เก็งงบไตรมาส 1/65 และสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดในจีนดีขึ้นช่วยหนุน

สถานการณ์ยูเครน-รัสเซีย ยังไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น ประธานาธิบดี ไบเดน มีการขอให้สภาคองเกรสมอบเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมยูเครนอีก 3.3 หมื่นล้านเหรียญ จากเดิม 1,300 ล้านเหรียญ ซึ่งเป็นวงเงินที่เพิ่มขึ้นมาก จึงยังมองว่าหากเพิ่มขึ้นตามจำนวนที่เสนอจริงจะส่งผล(ลบ) ต่อตลาด

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในช่วงนี้จะได้อานิสงค์จากการประกาศงบไตรมาส 1/65 ที่ช่วยหนุนตลาด รวมถึงของไทยด้วย จะมีแรงซื้อเก็งงบเข้ามาในตลาดหุ้น โดยคาดกำไรไตรมาส 1/65 มีแนวโน้มจะต่ำกว่าไตรมาส 4/64 ที่สูงถึง 2.7 แสนล้านบาท

ด้านยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของเซี่ยงไฮ้ อยู่ที่ 15,032 คน แต่สถานการณ์เริ่มดูดีขึ้น รวมถึงการอัดฉีดเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง จะช่วยให้เศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัว

กลยุทธ์มองดัชนีฯ อยู่ในโซนแนวรับ 1650-60 จุด ทำให้การลงทุนในระยะนี้ ต้องใช้ความระมัดระวัง ส่วนหนึ่งมาจากตลาดไทยจะมีวันหยุดยาวและมีประชุม FOMC ในวันพุธหน้าด้วย จึงเน้นลงทุนในกรอบเวลาสั้นๆ และธีมลงทุน จะเป็นเลือกซื้อหุ้นที่มีข่าวบวก หรือเก็งงบไตรมาส 1/65 (หุ้นพลังงาน)

5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
SCC อยู่ที่ 369.00 บาท เพิ่มขึ้น 9.00 บาท หรือ +2.50% มูลค่าซื้อขาย 603.28 ล้านบาท
SCB อยู่ที่ 113.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ +0.89% มูลค่าซื้อขาย 539.31 ล้านบาท
BANPU อยู่ที่ 12.20 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 425.45 ล้านบาท
TISCO อยู่ที่ 90.50 บาท ลดลง 9.00 บาท หรือ -9.05% มูลค่าซื้อขาย 301.52 ล้านบาท
KBANK อยู่ที่ 154.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ +0.33% มูลค่าซื้อขาย 284.63 ล้านบาท