HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นปิดบวก 5.85 จุด ตามตลาดต่างประเทศหลังงบฯบริษัทในสหรัฐออกมาดี ท่ามกลางความกังวลเงินบาทอ่อนค่า หวั่นต่างชาติจะขายหุ้นไทยออกมา และกำไรบริษัทจดทะเบียนก็ยังไม่ค่อยดี ทำให้หุ้นแต่ละตัวยังมีความเสี่ยง นักลงทุนสถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 2,676.51 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศขายสุทธิ 3,109.30 ล้านบาท ส่วนแนวโน้มวันพรุ่งนี้ตลาดฯมีโอกาสปรับตัวลง โดยมีแนวรับ 1,660-1,640 แนวต้าน 1,680 จุด
ตลาดหลักทรัพย์วันที่ 28 เม.ย.2565 ดัชนีปิดที่ระดับ 1,667.74 จุด เพิ่มขึ้น 5.85 จุด หรือ +0.35% มูลค่าซื้อขาย 79,291.84 ล้านบาท โดยดัชนีแตะสูงสุด 1,669.04 จุด ต่ำสุด 1,658.47 จุด
นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 776.44 ล้านบาท และบัญชีหลักทรัพย์ขายสุทธิ 343.64 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศขายสุทธิ 3,109.30 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 2,676.51 ล้านบาท
นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้ปรับขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียปรับตัวขึ้นตามตลาดสหรัฐฯที่ฟื้นตัวขึ้นหลังผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐออกมาดี แต่วันนี้ให้ติดตามบริษัท แอปเปิล (APPLE) จะประกาศงบฯออกมาดีหรือไม่ และตลาดในยุโรปเทรดบ่ายนี้ก็ปรับตัวขึ้นเช่นเดียวกับดาวโจนส์ฟิวเจอร์สที่บวก 1%
ทั้งนี้ ตลาดฯยังคงขึ้น/ลงตามปัจจัยต่างประเทศ แต่ปัจจัยที่น่ากังวลมาจากเงินบาทที่อ่อนค่า ทำให้จะต้องจับตาดูว่านักลงทุนต่างชาติจะขายออกมาหรือไม่ อีกทั้งผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนก็มองว่าไม่ค่อยดี หุ้นแต่ละตัวจึงยังมีความเสี่ยง โดยเฉพาะเรื่องต้นทุนเพิ่มขึ้นซึ่งมาจากก๊าชหุงต้ม และราคาดีเซล ที่อยู่ในทิศทางขยับขึ้น อาจทำให้กำลังซื้อลดลงจากราคาสินค้าที่สูงขึ้น ซึ่งค่าครองชีพเพิ่มขึ้นอาจจะทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวได้ และเงินเฟ้อไทยสูงขึ้นแต่ไม่ได้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ก็อาจจะทำให้เงินบาทอ่อนค่าได้อีก
พร้อมให้จับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า โดยตลาดคาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5% แต่จะต้องรอดูสัญญาณจากเฟดจะมีอะไรออกมา และติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนต่อไป
ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นในวันที่ 29 เม.ย.2565 ตลาดฯมีโอกาสปรับตัวลง โดยมีแนวรับ 1,660-1,640 จุด ส่วนแนวต้าน 1,680 จุด
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
SCB ปิดที่ 112.50 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ -1.32% มูลค่าซื้อขาย 4,489.71 ล้านบาท
BANPU ปิดที่ 12.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท หรือ +5.17% มูลค่าซื้อขาย 4,331.42 ล้านบาท
AOT ปิดที่ 67.00 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ -1.47% มูลค่าซื้อขาย 2,783.92 ล้านบาท
KBANK ปิดที่ 153.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ +1.32% มูลค่าซื้อขาย 2,457.32 ล้านบาท
TOP ปิดที่ 55.75 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาท หรือ +4.21% มูลค่าซื้อขาย 2,331.17 ล้านบาท