INGRS ร่วง 8% ผิดหวังกำไรหด แนะ AH-SAT-STANLY

นักลงทุนถล่มขายหุ้น INGRS ราคาร่วงหนักสุดในตลาด 8% หลังผิดหวังกำไรไตรมาส 2 ปี 61 ลดวูบ 96% “บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง” แนะนำเพียง “ถือ” ชู AH, SAT, STANLY น่าสนใจกว่า

ความเคลื่อนไหวหุ้นบริษัท อิงเกรส อินดัสเตรียล (ไทยแลนด์) หรือ INGRS ปิดตลาดภาคเช้าที่ 0.69 บาท ลดลง 0.06 บาท หรือ -8% มูลค่าการซื้อขาย 14.24 ล้านบาท จากเปิดตลาดที่ 0.71 บาท ซึ่งเป็นระดับสูงสุด หลังจากนั้นถูกขายต่อเนื่องฉุดราคาลงไปต่ำสุด 0.66 บาท


บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน INGRS ออกบทวิเคราะห์ ระบุว่า ผลประกอบการ 2Q61/62 (งวด พ.ค. – ก.ค. 61) มีกำไรสุทธิที่ทรุดหนักลงต่อเหลือเพียง 1 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสก่อน 84% และ ปีก่อน 96% ถ้าหากตัดผลของภาษี จะมีกำไรก่อนภาษีซึ่งปรับลดลงน้อยกว่าเหลือ 18 ล้านบาท ลดลง 32% จากไตรมาสก่อน เพิ่มขึ้น 2% จากปีก่อน ผลประกอบการที่น่าผิดหวังแม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาจะได้คำสั่งซื้อใหม่ และ แรงหนุนจากบริษัทลูกในอินเดีย รวมแล้วทำให้มียอดขายดีขึ้นเท่ากับ 755 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากไตรมาสก่อน เพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบปีก่อน แต่อัตรากำไรขั้นต้นปรับลดลงเหลือ 21.2% จาก 22.4% ในไตรมาสก่อน และ 23.4% ในปีก่อน รวมถึงค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้นเป็น 146 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% จากไตรมาสก่อน +11% เมื่อเทียบปีก่อน) ภาระดอกเบี้ยจ่ายลดลงเหลือ 15 ล้านบาท ลดลง -5% จากไตรมาสก่อน -22% เมื่อเทียบปีก่อน จากภาระหนี้เงินกู้ที่ลดลง

แนวโน้มผลประกอบการ INGRS ได้รับคำสั่งซื้อ ใหม่ คือ Perodua New Myvi ในมาเลเซีย จะช่วยสร้างรายได้ 1,290 ล้านบาท ในระยะ 5 ปี เริ่มผลิต ต.ค. 2560 และ Mitsubishi X-Pander ในอินโดนีเซีย จะช่วยสร้างรายได้ 430 ล้านบาท ในระยะ 5 ปี เริ่มผลิตก.ย.2560

สำหรับตลาดหลักของ INGRS อยู่ในมาเลเซีย มีสัดส่วนยอดขาย 52% ตัวเลขยอดผลิตรถยนต์ 7 เดือนแรกของมาเลเซีย เติบโต 12% สู่ระดับ 336,111 คัน โดย Proton มียอดผลิต 28,366 คัน ติดลบถึง 27% แต่ Perodua มียอดผลิตรถ 148,784 คัน เติบโต 26% ผลประกอบการครึ่งปีแรกที่ทรุดลงหนักจากการบริหารต้นทุนไม่ดี รวมถึงค่าใช้จ่ายที่มากกว่าคาด เราได้ปรับประมาณการกำไรลดลงอีก ประเมินยอดขายในปีนี้ 2,913 ล้านบาท ทรงตัว และ มีกำไร 39 ล้านบาท ลดลง 60%

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง แนะนำเพียง ถือ ราคาเป้าหมาย 1 บาท ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายต่ำกว่าราคาพาร์ 1 บาท และ ต่ำกว่ามูลค่าตามบัญชีต่อหุ้น 1.2 บาท เราประเมินราคาเป้าหมายเท่ากับราคาพาร์ 1 บาท โดยมองหุ้นในกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ของไทย คือ AH, SAT, STANLY น่าสนใจกว่า

INGRS ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ที่ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วนรถยนต์ ในประเทศไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย และอินเดีย โดยมีบริษัท อิงเกรส ออโตเวนเจอร์ จำกัด เป็นบริษัทแกน ซึ่งประกอบธุรกิจดังกล่าวในประเทศไทย