CIMBT กำไร Q1/65 พุ่ง 210% คุมค่าใช้จ่าย-ตั้งสำรองลดฮวบ

HoonSmart.com>> “ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย” โชว์กำไรสุทธิไตรมาส 1/65 อยู่ที่ 1,061 ล้านบาท เติบโต 210.9% คุมค่าใช้จ่ายลดลงกว่า 14% ขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นลดฮวบ 64% ด้านรายได้ดอกเบี้ยและรายได้ค่าธรรมเนียม บริการลดลง หนี้ NPL ขยับแตะ 3.8% ผลจากขายสินเชื่อด้อยคุณภาพในปี 64

นายพอล วอง ชี คิน กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT) เปิดเผยว่า ในไตรมาส 1/2565  ธนาคารมีกำไรสุทธิ  1,061.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น  719.7 ล้านบาท หรือ 210.9% เมื่อเทียบงวดเดียวกันปี 2564 สาเหตุหลักเกิดจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลง 14.0% และผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นลดลง 64.0% ในขณะที่รายได้จากการดำเนินงานลดลง 0.8%

รายได้จากการดำเนินงานจำนวน 3,484.1 ล้านบาท ลดลง 26.4 ล้านบาท หรือ 0.8%  เนื่องจากการลดลงของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ 152.9 ล้านบาท หรือ 6.2% จาก รายได้ดอกเบี้ยจากเงินให้สินเชื่อและธุรกิจเช่าซื้อ และการลดลงของรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิ 26.7 ล้านบาท หรือ 6.5% เกิดจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิกับรายได้จากการดำเนินงานอื่นเพิ่มขึ้นจำนวน 153.1 ล้านบาท หรือ 24.1% สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิจากเครื่องมือทางการเงินที่วัดมูลค่าด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรหรือขาดทุนและรายได้อื่น

ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ลดลง 291.7 ล้านบาทหรือ 14.0% เนื่องจากการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ ทำให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่อรายได้จากการดำเนินงาน อยู่ที่ 51.4%  ดีขึ้นเมื่อเทียบกับจำนวน 59.3%

อัตราส่วนรายได้ดอกเบี้ยสุทธิต่อสินทรัพย์เฉลี่ย (NIM) อยู่ที่ 2.8% ลดลงจาก 3.1% เป็นผลจากการลดลงของรายได้ดอกเบี้ยจากเงินให้สินเชื่อและธุรกิจเช่าซื้อ

วันที่ 31 มี.ค.2565 เงินให้สินเชื่อสุทธิจากรายได้รอตัดบัญชีอยู่ที่ 215.0 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.5% เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2564  มีเงินฝากจำนวน 252.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.4%  อัตราส่วนสินเชื่อต่อเงินฝาก ลดลงเป็น 85.2% จาก 88.5% สิ้นปี 2564

สินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPLs) อยู่ที่ 8.4 พันล้านบาท อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ ต่อเงินให้สินเชื่อทั้งสิ้นอยู่ที่ 3.8% เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2564 อยู่ที่ 3.7% เป็นผลจากการขายสินเชื่อด้อยคุณภาพในปี 2564 แต่ธนาคารยังคงมาตรฐานการอนุมัติสินเชื่อ และนโยบายการบริหารความเสี่ยงที่รัดกุมขึ้น ตลอดจนได้มีแนวทางเพิ่มประสิทธิภาพการติดตามหนี้ การดำเนินการดูแลและการแก้ไขลูกหนี้ที่ถูกผลกระทบดังกล่าวอย่างใกล้ชิด

อัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพอยู่ที่ 112.0% ลดลงจากสิ้นปี 2564 ซึ่งอยู่ที่ 117.5% ค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นของกลุ่มธนาคารอยู่ที่จำนวน 8.6 พันล้านบาท ซึ่งเป็นเงินสำรองส่วนเกินตามเกณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทยจำนวน 1.5 พันล้านบาท

เงินกองทุนรวมมีจำนวน 53.6 พันล้านบาท  คิดเป็นสัดส่วนต่อสินทรัพย์เสี่ยง  21.9% โดยเป็นอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 อยู่ที่ 15.9%

“ผลการดำเนินงานโดยรวมมีความก้าวหน้า แม้จะยังมีความไม่แน่นอนของการฟื้นตัวจากการระบาดของโควิด-19 โดยบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ คุณภาพสินทรัพย์ปรับปรุงดีขึ้น และเห็นโมเมนตัมการเติบโตเชิงบวกในไตรมาสแรก กลยุทธ์ของธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ปี 65 จะเดินหน้ามุ่งเน้นโซลูชั่นทางการเงินอย่างยั่งยืน และตอบความต้องการลูกค้าอย่างตรงจุด ผ่านการขับเคลื่อนจากธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจรายย่อย ธุรกิจรายใหญ่ ธุรกิจบริหารเงิน โดยใช้ประโยชน์จากเครือข่ายอาเซียนและดิจิทัลแพลตฟอร์ม “นายพอล วอง ชี คิน กล่าว