ดาวโจนส์บวก 249 จุด Nasdaq ร่วง 1.22%

HoonSmart.com>>ดัชนีดาวโจนส์บวกต่อ 249 จุด ผลประกอบการบริษัทดีกว่าที่คาด ส่วน Nasdaq  ร่วงลง นำโดยหุ้นเน็ตฟลิกซ์ จำนวนสมาชิกลดลงไตรมาสแรก 2 แสนราย ครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี  ตลาดติดตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีอ่อนตัวลง   ฝั่งตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปิดบวก  

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 20 เม.ย.2565 ปิดที่ 35,160.79 จุด เพิ่มขึ้น 249.59 จุด หรือ 0.71% จากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของพร็อกเตอร์แอนด์แกมเบิล ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดลบจากหุ้นเน็ตฟลิกซ์ที่ร่วงลง

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 4,459.45 จุด ลดลง 2.76 จุด, -0.06%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,453.07 จุด ลดลง 166.59 จุด, -1.22%

หุ้นเน็ตฟลิกซ์ลดลง 35% จากจำนวนสมาชิกลดลง 200,000 รายในไตรมาสแรก ซึ่งเป็นรายงานการลดลงของสมาชิกเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี นับตั้งแต่ปี 2004 นอกจากนี้นักวิเคราะห์ 10 รายได้ปรับลดคำแนะนำการลงทุนจากแนวโน้มการเงินที่อ่อนแอ

การลดลงของหุ้นเน็ตฟลิกซ์ส่งผลต่อบริษัทที่ให้บริการสตรีมมิ่งรายอื่น โดยหุ้นดิสนีย์ลดลง 5.6% หุ้น Roku ลดลง 6.2% หุ้นเวอร์เนอร์บราเธอร์สดิสคัฟเวอรีลดลง 6% และยังมีผลให้นักลงทุนชะลอการซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่กำลังจะรายงานผลการดำเนินงาน หุ้นเทสลาลดลง 5% ก่อนรายงานผลการดำเนินงานหลังตลาดปิด หุ้นแอมะซอนและหุ้นเซลส์ฟอรซ์ต่างลดลงกว่า 2%

ในทางกลับกันหุ้นพร็อกเตอร์แอนด์แกมเบิลบวก 2.7% และช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์จากผลการดำเนินงานที่ดีกว่าคาดและปรับประมาณการทั้งปีขึ้น หุ้นไอบีเอ็มเพิ่มขึ้น 7.1% จากกำไรและรายได้ดีกว่าคาด

จนถึงขณะนี้ บริษัทประมาณ 12% ใน S&P 500 ได้รายงานผลประกอบการไตรมาสแรก ซึ่ง 80% มีผลการดำเนินงานที่ดีกว่าคาด

นอกเหนือจากผลประกอบการของบริษัท นักลงทุนยังจับตาอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ซึ่งอ่อนตัวลงหลังจากแตะระดับ 2.94% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปลายปี 2018 ในวันอังคาร

ซิลเวีย จาบลอนสกี้ ซีอีโอและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของ Defiance ETF กล่าว ตลาดดูเหมือนจะขานรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปแล้ว อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มใกล้แตะระดับสูงสุด และคิดว่ามีความเชื่อมั่นในเชิงบวกในช่วงการรายงานผลประกอบการ

สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติ (NAR) รายงาน ยอดขายบ้านมือสองเดือนมี.ค.มีจำนวน 5.77 ล้านยูนิต ลดลง 2.7% จาก 5.93 ล้านยูนิตในเดือนก.พ. และต่ำกว่า 5.80 ล้านยูนิต ที่นักวิเคราะห์คาด

ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปิดบวกจากการรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน นำโดยกลุ่มเทคโนโลยีที่ทั้งกลุ่มกลับมาอยู่ในแดนบวก ขณะที่นักลงทุนยังเกาะติดความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน หลังการสู้รบรอบใหม่ได้เริ่มขึ้นในทางตะวันออกของยูเครน

หุ้นดานอน หุ้นไฮเนเก้นต่างเพิ่มขึ้นกว่า 5% จากยอดขายที่ดีกว่าคาด ด้านหุ้น Rio Tinto ลดลง 5% จากการส่งออกแร่ไตรมาสแรกต่ำกว่าคาด

หุ้นเครดิตสวิสลดลง1.5% จากคาดการณ์ว่าจะรายงานผลขาดทุนในไตรมาสแรก

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 460.10 จุด เพิ่มขึ้น 3.82 จุด, +0.84%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,629.22 จุด เพิ่มขึ้น 27.94 จุด, +0.37%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,624.91 จุด เพิ่มขึ้น 90.12 จุด, +1.38%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 14,362.03 จุด เพิ่มขึ้น 208.57 จุด, +1.47%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 19 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 102.75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนืองวดส่งมอบเดือนมิ.ย.ลดลง 45 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 106.80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล