HoonSmart.com>> บล.คิงส์ฟอร์ด คาดแนวโน้มดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบแคบก่อนวันหยุดสงกรานต์ เฟดยังกดดันการลงทุน แนวโน้มฟันด์โฟลว์ชะลอตัว ชูหุ้นปลอดภัยชี้เป้า TISCO-KKP-BH-SPVI-SIS แนวรับ 1,670 – 1,675 จุด แนวต้าน 1,690 – 1,695 จุด
บริษัทหลักทรัพย์คิงส์ฟอร์ด มองแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ หลังดัชนี SET วานนี้หลุด Filter ที่ 1,690 จุด คาดเคลื่อนไหวในกรอบแคบก่อนวันหยุดสงกรานต์ และปัจจัยกดดันจากเฟดเร่งถอนสภาพคล่อง โดยวางแนวรับ 1,670 – 1,675 แนวต้าน 1,690 – 1,695 แนะนำเก็งกำไรระยะสั้น TISCO, KKP/ BH, SPVI, SIS เป็นกลุ่มปลอดภัย
ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ฟื้นตัวจากแรงซื้อกลับในกลุ่มเทคโนโลยี หลังราคาหุ้นปรับลดลงจากเปิดเผย Fed Minutes มี.ค. โดยตลาดคาดเฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ใน พ.ค. , มิ.ย. และขึ้นครั้งละ 0.25% ในการประชุมที่เหลือของปีนี้ ส่งผลให้ดอกเบี้ยสหรัฐปลายปีนี้มีโอกาสปรับขึ้นไปที่ระดับ 2.50 – 2.75% กอปรเฟดส่งสัญญาณเริ่มลดขนาดงบดุลใน พ.ค. ที่ระดับ 9.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน ซึ่งมากกว่าตลาดคาดที่ 8 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน เพื่อดึงสภาพคล่องออกจากระบบ หลังเฟดอัดฉีดเม็ดเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงวิกฤต Covid-19 โดยงบดุลเฟดปัจจุบันอยู่ที่ 9 ล้านล้านดอลลาร์
ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 -0.21% ถูกกดดันจากวิกฤตรัสเซีย – ยูเครนยืดเยื้อเข้าสู่เดือนที่ 2 ส่งผลให้เงินเฟ้อยูโรโซน มี.ค. +7.5% YoY อาจส่งผลให้ ECB ต้องปรับขึ้นดอกเบี้ย วันอาทิตย์นี้ติดตามผลเลือกตั้งฝรั่งเศสรอบแรกระหว่างประธานาธิบดีมาครง กับนางเลอเปนผู้นำฝ่ายขวา ภาพรวม Fund Flow มีแนวโน้มชะลอตัวจากปัจจัยเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ย, วิกฤตรัสเซีย – ยูเครน รวมถึง มาตรการล็อกดาวน์ในจีน
หุ้นแนะนำวันนี้ JR* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 9.20 บาท) แนวโน้มปี 65 บริษัทฯ คาดว่ารายได้จะเติบโตมากกว่า 20% เนื่องจากได้รับงานวางระบบและติดตั้งหัว Quick Charge EV (EV Smart Charging Station) ร่วมกับ EMN (บริษัทย่อยของ EA) และ กฟน. ซึ่งมีมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ มี Backlog เพิ่มขึ้นรวมเป็น 6,600 ล้านบาท คาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้ภายใน 4 ปี
อีกทั้งบริษัทฯ ยังเตรียมจะเข้าประมูลงานใหม่ ได้แก่ งานวางระบบไฟฟ้า ของรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและชมพู มูลค่ามากกว่า 6,000 ล้านบาท ทำให้สิ้นปีนี้บริษัทฯ คาดว่าจะมี Backlog เพิ่มขึ้นแตะ 10,000 ล้านบาท ด้านแนวโน้มผลประกอบการ 1Q65 ทยอยฟื้นตัว QoQ และจะดีขึ้นต่อใน 2Q65 หลังจากสถานการณ์ COVID-19 คลายตัวทำให้เข้าพื้นที่และส่งมอบงานได้เร็วขึ้น)
หุ้น TISCO* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 111.00 บาท) แนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้นยังเป็นปัจจัยหนุนอุตสาหกรรมให้ฟื้นตัว ขณะที่ความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่สูงขึ้นเป็นอีกปัจจัยให้การยื่นขอสินเชื่อเพิ่มมากขึ้นเป็นปัจจัยหนุนรายได้จากดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม
ส่วนการกันสำรองหนี้เสีย NPL Ratio ล้วนทำให้คุณภาพสินทรัพย์มีมากขึ้นตามสภาวะเศรษฐกิจ แม้มีโอกาสคงตัวจากไตรมาส 4Q64 แต่ก็มีแนวโน้มลดลง โดย IAA Consensus คาดบริษัทจะมี EPS ในปี 2565 นี้ขยายตัวจากปี 2564 ที่ 8.47 บาทต่อหุ้น สู่ปี 2565 ราว 8.83 บาทต่อหุ้น และปี 2566 คาดขยายสู่ 9.12 บาทต่อหุ้น ขณะที่ Dividend Yield จากปี 2564 ที่ราว 6.56% คาดปี 2565 ขยายตัวสู่ 7.2%