ดาวโจนส์ปิดลบ 144 จุด เฟดส่งสัญญาณเร่งขึ้นดอกเบี้ย

HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบ ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 144 จุด บอนด์ยีลด์พุ่งแตะระดับนิวไฮใหม่ หลังเฟดส่งสัญญาณเร่งปรับนโยบายการเงินเข้มงวดขึ้น เพื่อคุมเงินเฟ้อ นักลงทุนกังวลอาจทำเศรษฐกิจชะลอตัว ราคาน้ำมันดิบร่วงกว่า 5% WTI ปิดที่ 96.23 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง นักลงทุนรอรายงานการประชุมเดือนมี.ค.ของเฟดและการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติม

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 6 เมษายน มีนาคม 2565 ปิดที่ 34,496.51 จุด ลดลง 144.67 จุด หรือ -0.42% ลดลงเป็นวันที่สอง และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับขึ้นแตะระดับนิวไฮใหม่ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ให้ทิศทางการเร่งปรับนโยบายการเงินให้เข้มงวดขึ้นเพื่อคุมเงินเฟ้อ ทำให้เกิดความกังวลว่าอาจทำให้เศรษฐกิจชะลอตัว

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 4,481.15 จุด ลดลง 43.97 จุด หรือ -0.97%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,888.82 จุด ลดลง 315.35 จุด หรือ -2.22%

เฟดเผยแพร่รายงานการประชุมเดือนมีนาคมเมื่อบ่ายวันพุธว่า กรรมการเห็นพ้องกันว่าควรลดงบดุลลง 95 พันล้านดอลลาร์ต่อเดือน และยังแสดงให้เห็นว่ากรรมการเฟดกำลังพิจารณาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่มากกว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยปกติ 0.25%

หุ้นร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดของวันหลังการเผยแพร่รายงาน แต่เด้งกลับมาเล็กน้อยเมื่อปิดการซื้อขายของวัน

รายงานระบุว่า “กรรมการที่เข้าร่วมหลายคนเห็นว่า ด้วยอัตราเงินเฟ้อที่สูงกว่าเป้าหมาย ความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น และอัตราดอกเบี้ย fed funds rate ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ในระยะยาว จึงเห็นว่าน่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมครั้งนี้”

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นเหนือ 2.65% สูงสุดในรอบ 3 ปีและยังคงอยู่ใกล้ระดับสูงสุดนั้นหลังการเผยแพร่รายงานการประชุมเฟด
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีนำการลดลงอีกครั้งเป็นวันที่สอง เนื่องจากนักลงทุนสลับการลงทุนออกจากกลุ่ม เพื่อเตรียมรับอัตราดอกเบี้ยที่สูงซึ่งจะชะลอเศรษฐกิจ โดยหุ้นไมโครซอฟท์ ลดลง 3.6% หุ้นแอปเปิล ลดลง 1.8% หุ้นแอมะซอน ลดลง 3.2% หุ้นอัลฟาเบท ลดลง 2.8% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ลดลง 3.1%

นักลงทุนยังคงมองหาหุ้นที่ทำกำไรสม่ำเสมอ โดยเลี่ยงหุ้นที่มีแนวโน้มเติบโตในอนาคต ส่วนกลุ่มสาธารณูปโภค เฮลธ์แคร์ และสินค้าอุปโภคบริโภคยังคงปรับขึ้น โดยหุ้น Amgen และหุ้น จอห์นสันแอนด์จอห์นสันต่างเพิ่มขึ้นมากกว่า 2% ในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค หุ้น Coca-Cola และหุ้นProcter & Gamble ต่างเพิ่มขึ้นมากกว่า 1% หุ้นวอลมาร์ต เพิ่มขึ้น 2.3%

ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา กรรมการเฟดได้ออกมาแสดงความเห็นเตือนนักลงทุนว่า มีความเป็นไปได้ที่เฟดจะเร่งปรับนโยบายการเงินให้เข้มงวดขึ้น ประกอบกับการให้ความเห็นล่าสุดนางลาเอล เบรนาร์ด หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟด และคนอื่นๆ ดูเหมือนเป็นการส่งสัญญาณ

ในช่วงเช้าวานนี้ นายแพทริก ฮาร์เกอร์ ประธานเฟด สาขาฟิลาเดลเฟีย กล่าวว่า เขา “กังวลอย่างมาก” เกี่ยวกับเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น โดยชี้ว่าว่าเขาคาดว่า “จะมีการปรับขึ้นอย่างรอบคอบและเป็นระบบต่อเนื่องตลอดทั้งปี โดยอิงจากข้อมูล”

นักลงทุนยังเกาะติดสงครามรัสเซีย-ยูเครน ขณะที่สหรัฐประกาศมาตรการคว่ำบาตรอีกรอบ ซึ่งรวมถึงการห้ามชาวอเมริกันลงทุนในรัสเซีย โดบมุ่งเป้าไปที่ Sberbank และ Alfabank ของรัสเซีย ซึ่งเป็นสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุด 2 แห่งของประเทศ รวมไปถึงลูกสาวประธานาธิบดีวลาดิมิร์ ปูติน 2 คนภรรยาและลูกสาวของรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียนายเซอร์เก้ ลารอฟ แต่การคว่ำบาตรครั้งนี้ไม่ครอบคลุมธุรกรรมด้านพลังงาน

ขณะเดียวกัน นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง กล่าวในการให้ถ้อยแถลงต่อคณะกรรมาธิการการเงินของสภาผู้แทนราษฎรในวันพุธว่า สงครามของรัสเซียในยูเครนจะมี “ผลกระทบทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ทั่วโลก” รวมถึงการหยุดชะงักของอาหารและพลังงาน

ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง นำโดยกลุ่มเดินทางและสันทนาการที่ลดลง 3.9% ขณะที่นักลงทุนรอการเผยแพร่รายงานการประชุมเดือนมีนาคมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และการคว่ำบาตรของตะวันตกต่อรัสเซียเพิ่มเติม

พันธมิตรชาติตะวันตก รวมทั้งสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และประเทศ G7 กำลังประสานงานเพื่อคว่ำบาตรรัสเซียรอบใหม่ ซึ่งสหรัฐฯ ห้ามลงทุนในรัสเซีย และสหภาพยุโรปห้ามนำเข้าถ่านหิน

นายชาร์ลส์ มิเชล ประธานคณะมนตรียุโรปกล่าวเมื่อวันพุธว่า สหภาพยุโรป จะต้องห้ามการนำเข้าน้ำมันและก๊าซของรัสเซีย “ไม่ช้าก็เร็ว” เพื่อกดดันรัสเซียให้ถอนตัวจากยูเครน

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 455.97 จุด ลดลง 7.10 จุด, -1.53%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,587.70 จุด ลดลง 26.02 จุด, -0.34%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,498.83 จุด ลดลง 146.68 จุด, -2.21%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 14,151.69 จุด ลดลง 272.67 จุด, -1.89%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคมลดลง 5.73 ดอลลาร์ หรือ 5.6% ปิดที่ 96.23 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนืองวดส่งมอบเดือนลดลง5.57 ดอลลาร์ หรือ 5.2% ปิดที่ 101.07 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล