หุ้น TU ลบ 3.68% หวั่นกองทุนลดพอร์ตหลังก.ล.ต.ปรับผู้บริหารฐานอินไซด์

HoonSmart.com>>หุ้น TU ลบ 3.68% รับ Sentiment ลบจากก.ล.ต.สั่งปรับผู้บริหาร TU ฐานใช้ข้อมูลอินไซด์ หวั่นกองทุนขายลดพอร์ตลงทุน จากที่เป็นเรื่องของความโปร่งใส คล้ายกรณีของ CPALL ก่อนหน้านี้ แต่ในด้านปัจจัยพื้นฐานยังแนะนำ”ซื้อ”ราคาเป้าหมาย 30 บาท มองกำไรแข็งแกร่ง-ได้ประโยชน์บริษัทลูกจะเข้าตลาดฯด้วย

เมื่อเวลา 10.42 น.หุ้น TU ลบ 3.68% มาอยู่ที่ 18.30 บาท ลดลง 0.70 บาท มูลค่าซื้อขาย 658.01 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 18.80 บาท ขึ้นสูงสุด 18.80 บาท และต่ำสุด 18.20 บาท

นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ราคาหุ้นบริษัทไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) เช้านี้ปรับตัวลง คาดว่าจะรับ Sentiment ลบ จากเรื่องที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้สั่งปรับผู้บริหารของ TU ที่กระทำความผิดในการใช้ข้อมูลภายใน (อินไซด์) ทำให้มีโอกาสที่กองทุนจะทำการขายลดพอร์ตลงทุน เนื่องจากเป็นเรื่องของความโปร่งใส ซึ่งกรณีนี้ก็คล้ายคลึงกับกรณีของ CPALL ก่อนหน้านี้

อย่างไรก็ดี ในทางปัจจัยพื้นฐานของ TU ยังคงแนะนำ”ซื้อ”ให้ราคาเป้าหมาย 30 บาท เนื่องจากกำไรปีนี้ยังคงเติบโตแข็งแกร่ง และยังได้ประโยชน์จากการนำบริษัทลูกที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับอาหารสัตว์เข้าตลาดฯด้วย

อนึ่ง ก.ล.ต. ได้เปิดเผยการดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิด 9 ราย กรณีซื้อหุ้นบริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป  (TU) เมื่อปี 2560 โดยอาศัยข้อมูลภายใน เปิดเผยข้อมูลภายใน และช่วยเหลือการกระทำความผิด โดยให้ผู้กระทำความผิดชำระเงินรวม 13,363,281 บาท โดยในช่วงเดือนต.ค.-พ.ย. 2560 บุคคลจำนวน 9 ราย ได้แก่ (1) นายไกรสร จันศิริ (ขณะกระทำความผิดดำรงตำแหน่งเป็นประธานกรรมการ TU) (2) นายดิสพล จันศิริ (3) นายชาน ฮอน กิต (ขณะกระทำความผิดดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการบริษัทในเครือ TU) (4) นายชาน ติน ซู  (5) นางไฉ่ เหวียน จู  (6) นายชวน ตั้งจันสิริ (ขณะกระทำความผิดดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการ TU) (7) นางเฉิน อวี้ เจิน (8) นายชาน ฮอน ฮุง และ (9) นางหุย ปุย หวา ได้ซื้อหุ้น TU โดยอาศัยข้อมูลภายใน (อินไซด์เดอร์เทรดดิ้ง)  เปิดเผยข้อมูลภายในแก่บุคคลอื่น หรือช่วยเหลือการกระทำความผิดดังกล่าว