BJC ชูโมเดลธุรกิจ ร่วมทุนแทนสร้างรง. 5 ปีขาย 2.7 แสนลบ.ส่งลูกเข้าตลาดหุ้นเวียดนาม

HoonSmart.com>>”เบอร์ลี่ ยุคเกอร์” ชูโมเดลธุรกิจ เน้นสร้างกำไร ไม่ทุ่มงบหลักพันล้านบาทซื้อกิจการ สร้างโรงงานผลิตสินค้าในต่างประเทศ ปรับใช้วิธีร่วมทุนกับผู้ผลิต  25-50% ขายผ่านช่องทางบริษัทแทน ส่งสินค้าถึงร้านค้าปลีก แผน 5 ปี ตั้งเป้ายอดขายโตเฉลี่ย 11-16% แตะ 2.7 แสนล้านบาทปี 69 งบลงทุน 6-7 หมื่นล้านบาทหรือ  1.2-1.4 หมื่นล้าน/ปี  ดันธุรกิจศูนย์ค้าส่งและกระจายอาหารในเวียดนาม เข้าตลาดหุ้นเวียดนาม

นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC) เปิดเผยว่า บริษัทยังคงเน้นสร้างกำไร วางแผนการดำเนินงานระยะกลางในช่วง 5 ปีนี้ (ปี 2565-2569) ตั้งเป้ายอดขายเติบโตเฉลี่ย 11-16% ต่อปี หรือแตะ 2.7 แสนล้านบาทในปี 2569  หากรวมยอดขายจากธุรกิจศูนย์ค้าส่งและกระจายอาหารในประเทศเวียดนามหรือ MM Mega Market Vietnam  บริษัทจะมียอดขายแตะ 3 แสนล้านบาท

ส่วนงบลงทุนรวมตั้งไว้ที่ 6-7 หมื่นล้านบาท หรือเฉลี่ย 1.2-1.4 หมื่นล้านบาท/ปี ส่วนใหญ่จะใช้ขยายสาขาและปรับปรุงสาขาของ BigC สัดส่วนกว่า 70% และอีก 20% จะใช้ลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับบรรจุภัณฑ์ โดยเฉพาะกระป๋อง  แหล่งเงินลงทุนมาจากอีบิทดาปีละ 2 หมื่นล้านบาทเศษ และใช้สินเชื่อระยะสั้น  ปัจจุบันบริษัทมี D/E 1.3 เท่า สามารถเพิ่มถึง 2 เท่า

“ตามแผน 5 ปี  การเพิ่มฐานการผลิต เราจะใช้วิธีการร่วมถือหุ้นเกิน 25-50% เพื่อมีโอกาสในการลงทุน ไม่มีการแข่งขัน โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนหลักพันล้านบาท เพื่อสร้างโรงงานหรือไปซื้อธุรกิจที่ต้องจ่ายพรีเมี่ยม”นายอัศวินกล่าว

กลยุทธ์สำคัญยังคงเดินหน้าในการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้า และขยายสาขาร้านค้าในเครืออย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเน้นการขยายตลาดในกลุ่มอาเซียน จากการมองเห็นศักยภาพที่จะสามารถเติบโตได้อีกมาก และเป็นตลาดค่อนข้างใหญ่ที่มีกำลังซื้อสูงขึ้น ช่วยหนุนการเติบโตของยอดขายให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

นอกจากนี้บริษัทยังคงเล็งเห็นโอกาสในการขยายช่องทางการขายผ่านออนไลน์เพิ่มขึ้น ครอบคลุมผ่านแพลตฟอร์มที่บริษัทพัฒนาขึ้นเอง และช่องทาง Social Commerce ต่างๆ โดยตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนยอดขายออนไลน์ภายใน 5 ปีเป็นมากกว่า 10% จากปัจจุบันมีสัดส่วนอยู่ที่ 3% ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่เข้ามาช่วยในการผลักดันยอดขาย รวมถึงการส่งพนักงานเข้าไปคุยกับร้านค้าปลีกให้มาซื้อสินค้าในร้านโดนใจ เพิ่มโอกาสให้ผู้ประกอบการรายเล็กและขนาดกลางให้มีรายได้มากขึ้น บิ๊กซีมีธุรกิจเข้มขึ้น ขณะเดียวกันเพิ่มสินค้าท้องถิ่น เดิมไม่มีน้ำปลาร้า ไม่มีสินค้าท้องถิ่น  เพื่อขายสินค้าให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า

ส่วนการขายสินค้าอุปโภคและบริโภค จะเน้นการเข้าไปขยายตลาดผ่านช่องทาง Traditional ในต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะในเวียดนามที่ยังมีโอกาสอีกมาก ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ส่งผลบวกต่อการผลักดันยอดขายให้กับบริษัทได้อย่างมีนัยสำคัญ

นอกจากนี้ในแผนการดำเนินงาน 5 ปี  บริษัทเล็งเห็นถึงศักยภาพการเติบโตของธุรกิจศูนย์ค้าส่งและกระจายอาหารในประเทศเวียดนาม คือ MM Mega Market Vietnam ที่สอดคล้องไปกับเศรษฐกิจ ซึ่งบริษัทมีแผนจะนำธุรกิจ เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นเวียดนามตามแผน 5 ปีนี้