ก.ล.ต.เล็งศึกษาใช้กม.อาญาเข้ม พบกม.แพ่ง ปั่นหุ้น-อินไซด์ฯ โทษเบาไป

HoonSmart.com>> ฝ่ายกฎหมายก.ล.ต.เปิดแผนงานปี 65 มาตรการลงโทษทางแพ่งใช้มาครบ 5 ปี ข้อดี คดีจบเร็ว แต่มีข้อเสีย “เจอ จ่าย จบ”โทษไม่ถึงคุก  คนทำผิดไม่เกรงกลัว จะต้องทบทวนนำกฎหมายอาญามาใช้เพิ่มขึ้นหรือไม่ ในลักษณะใด ส่วน “สินทรัพย์ดิจิทัล” ตลาดซื้อขายมีหน้าที่ดูแลความเรียบร้อย เล็งนำเครื่องมือหยุดการซื้อขาย ซิลลิ่งฟลอร์มาใช้ ส่วนก.ล.ต.จะดูแลการนำเหรียญไปเทรดหลายตลาด 

นายศักรินทร์ ร่วมรังษี รองเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) เปิดเผยในงานสัมมนาออนไลน์ แผนยุทธศาสตร์ก.ล.ต. 2565 ว่า งานบังคับใช้กฎหมาย มีเป้าหมายในการดูแลให้ตลาดแรกและตลาดรองมีการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใสและเป็นธรรม ซึ่งขบวนการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อป้องปราม เริ่มตั้งแต่ติดตาม ตรวจสอบและดำเนินคดี ต้องทำตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายครบวงจร ปกติสำนักงานจะใช้ 2 มาตรการ คือการดำเนินการทางอาญา และการลงโทษทางแพ่ง

สำหรับมาตรการลงโทษทางแพ่งเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา ในทางปฎิบัติสำนักงานก.ล.ต.ไม่ได้ตัดสินใจว่าจะใช้ทางแพ่งได้เอง จะต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) ซึ่งเมื่อนำมาใช้แล้วพบว่า สามารถดำเนินคดีได้รวดเร็วขึ้น เห็นผลต่อผู้กระทำผิด แต่โทษไม่ถึงขั้นจำคุก มีการปรับทางแพ่ง ให้ชดใช้เงิน 2 เท่าของผลประโยชน์ที่ได้รับมา ห้ามการซื้อขายหลักทรัพย์ ห้ามไม่ให้เป็นผู้บริหารบริษัทที่เสนอขายหลักทรัพย์ เมื่อดำเนินคดี เพื่อให้จบ ก็ต้องจ่าย แต่หากยอมไม่จบ สำนักงานสามารถเป็นโจทก์ยื่นฟ้องได้เอง ใช้ขบวนการทางแพ่งที่รวดเร็วและยืดหยุ่นมากกว่า ถือเป็นมาตรการคู่สามารถเลือกได้ว่าจะใช้แพ่งหรืออาญา

สำนักงานมีหลักในการทำงาน  4 จ คือ 1.หาให้เจอ 2.จับให้ได้ 3.จบให้เร็ว ทุกกระบวนการบังคับใช้กฎหมาย 4. เจ็บให้จำ มีผลในการป้องปรามหรือเกรงกลัวหรือไหม

“มาตรการทางแพ่งใช้มาตั้งแต่ปี 2559 ถึงตอนนี้ 5 ปี จะต้องมีการทบทวนประสิทธิผลและกระบวนการของกฎหมาย พบว่ามีข้อดี จบเร็ว  แต่มีข้อเสีย บางคนบอกว่าเหมือนเจอ จ่าย จบ หรือป่าว เมื่อทำผิด ก็จ่าย ไม่ต้องถูกดำเนินการ ทำให้ไม่เกิดความเกรงกลัว โทษอาจจะรู้สึกเบาไป สามารถใช้การดำเนินการทางอาญา ในปี 2565 จะดูว่ามาตรการทางอาญานำมาใช้เพิ่มขึ้นหรือไม่ ในลักษณะใด การกระทำแบบใดที่จะเหมาะสมนำมาใช้อย่างไร “นายศักรินทร์กล่าว

อย่างไรก็ตาม การดำเนินการทางอาญา ก่อนที่จะดำเนินคดี  มีการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เวลาทำงานจะเห็นว่าจะต้องมีความรู้ ความเข้าใจเฉพาะเรื่อง ถ้าสำนักงานก.ล.ต.มีอำนาจในการสอบสวน เรื่องก็เดินหน้าไปถึงอัยการได้เลย เป็นส่วนหนึ่งอยู่ในระหว่างการเสนอแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมาย เพื่อให้สำนักงานมีอำนาจในการสอบสวน ส่วนโจทย์จับให้ได้ พยานบุคคลก็เป็นเรื่องสำคัญ บุคคลที่เกี่ยวข้องอาจจะเกรงกลัว ก็มีการแก้ไขกฎมาย การคุ้มครองพยาน ให้มาอยู่ภายใต้กฎหมายหลักทรัพย์ เพื่อให้การดำเนินการทางอาญามีประสิทธิภาพมากขึ้น

ขณะเดียวกัน เรื่องการกระทำที่ไม่เป็นธรรมในการซื้อขายหลักทรัพย์ เช่น การปั่นหุ้น การใช้ข้อมูลภายในมาซื้อขายหรืออินไซด์เดอร์เทรดดิ้ง มีการแก้กฎหมายพร้อมกับการดำเนินมาตรการลงโทษทางแพ่งใช้มาแล้ว 5 ปี กฎหมายใหม่สามารถเอาผิดครอบคลุมวงกว้างมากขึ้น ทำให้คดีหนึ่งพบผู้กระทำความผิดหลายคน ส่วนหนึ่งเพราะคนไม่เข้าใจกฎมายดีพอ หรือไม่ตระหนักดีพอ บางคนเกี่ยวข้อง ฝ่ายขาย หรือฝ่ายบัญชี ไม่รู้ตัวว่า มีส่วนที่จะผิดกฎหมายได้ ก็จะมาทบทวน และใช้มาตรการในเชิงป้องกัน ทำความเข้าใจ ผ่านการให้ความรู้มากขึ้น ในปี 2565

สำหรับเรื่องฮอตการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล ตามกฎหมายเริ่มใช้ปี 2561 ผลของการดำเนินคดีในปีนั้นกลับปีนี้แตกต่างกัน ปัจจุบันมีจำนวนผู้ลงทุนมากถึง1-2 ล้านราย ดังนั้นการบังคับใช้กฎหมาย จะมาดูแลการเรื่องการซื้อขายมากขึ้น ตลาดหรือศูนย์ซื้อขายที่มีหน้าที่กำกับ ได้ดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยในตลาดหรือไม่ หรือมีคนทำผิดกฎหมายหรือไม่ ส่วนผู้ออกเหรียญมีการให้ข้อมูลครบถ้วนหรือไม่ หากข้อมูลยังไม่เผยแพร่จะต้องดูแลสภาพตลาดอย่างไร จะต้องนำเครื่องหมายหยุดการซื้อขายมาใช่ไหม มีซิลลิ่งกับฟลอร์มาใช้ไหม   ส่วนสำนักงานจะดูแล เรื่องการมีตลาดหลายแห่ง  มีเหรียญจำนวนมาก อาจจะมีการนำเหรียญไปกระจายหลายตลาด

นายศักรินทร์ กล่าวว่า การสร้างประสิทธิภาพ กระบวนการแก้ไขกฎหมาย งานเกี่ยวกับการติดตาม และตรวจสอบของก.ล.ต. จะทำอย่าไรให้หาให้เจอ และจับให้ได้มากขึ้น มีการนำเทคโนโลยีมาใช้ทำให้การบังคับใช้กฎหมายมีประสิทธิภาพ ปัจจุบันดำเนินการ 3 โครงการ คือ 1. Corporate Surveillance System นำข้อมูลการทำงานของทีมตรวจงบการเงินหลายครั้ง นำข้อสงสัยทำระบบและฐานข้อมูล ที่จะนำไปใช้ประโยชน์ในการตรวจสอบความสัมพันธ์ของบุคคลและนิติบุคคล ซึ่งสามารถตรวจจับและคัดกรองธุรกรรมที่ผิดปกติได้เร็ว ก็เข้าหาบริษัทนั้นๆ  สามารถยับยั้งไม่ให้ความเสียหายลุกลาม ลดระยะเวลาการทำงาน ลดจำนวนเคส และความเสียหายจากการกระทำทุจริต

2.ระบบเชื่อมต่อข้อมูลจากหน่วยงานพันธมิตรในระบบเดียวกัน รวบรวมพยานหลักฐาน เรียบเรียงข้อเท็จจริง เพื่อช่วยในการติดตาม ตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมาย

3. ระบบพยายามนำไปสู่การจับปั่นหุ้นโดยใช้เทคโนโลยี AI  ซอฟท์แวร์ต่างๆมาช่วย ในการนำความรู้ความเข้าใจของเจ้าหน้าที่ในการจับคนปั่นหุ้นให้เครื่องทำงานแทนมนุษย์  พฤติกรรมของการปั่นหุ้น แปลงข้อมูลที่เป็นพยานหลักฐานได้ ช่วยลดระยะเวลาการตรวจสอบ และตรวจสอบพฤติกรรมที่ผิดปกติได้แม่นยำ ในที่สุดเครื่องสามารถพัฒนาคิดเองการกระทำผิดรูปแบบใหม่ ๆ ระบบยังสามารถดูข้อมูลตั้งแต่ต้นว่าการซื้อขายแบบไหนมีลักษณะการปั่นหุ้น จะช่วยป้องปรามได้ตั้งแต่ต้น ยังไม่ถึงการกระทำความผิดปั่นหุ้น