ดาวโจนส์ปิดร่วง 448 จุด น้ำมันพุ่ง วิตกเฟดรุกคุมเงินเฟ้อ

HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วง ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบ 448 จุด หลังราคาน้ำมันดิบพุ่ง 5% เข้าใกล้ 115 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนเบรท์ทำนิวไฮ 121 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มความกังวลเฟดอาจใช้แนวทางเชิงรุกมากขึ้นเพื่อคุมเงินเฟ้อ ด้านตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ลดลง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 23 มีนาคม 2565 ปิดที่ 34,358.50 จุด ลดลง 448.96 จุด หรือ 1.29% หลังจากราคาน้ำมันดิบสูงขึ้นได้เพิ่มความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ นักลงทุนเกรงว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะใช้แนวทางเชิงรุกมากขึ้นในการควบคุมเงินเฟ้อ

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 4,456.24 จุด ลดลง 55.37 จุด, -1.23%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,922.60 จุด ลดลง 186.21 จุด, -1.32%

ราคาน้ำมันดิบ WTI ของสหรัฐเพิ่มขึ้นประมาณ 5% มาที่ระดับใกล้ 115 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์พุ่งขึ้นมากกว่า 5% สู่ระดับสูงสุดที่ 121 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้น โดยหุ้น Hess และหุ้น Diamondback Energy เป็นหุ้นสองตัวที่ปรับขึ้นโดดเด่นใน S&P 500 ซึ่งเพิ่มขึ้น 4.6% และ 3.9% ตามลำดับ หุ้นเอ็กซอน โมบิล เพิ่มขึ้น 1.58% หุ้นเชฟรอน เพิ่มขึ้น 1.1%

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งทะลุ 2.41% สูงสุดในระหว่างวันซึ่งเป็นระดับสูงสุด ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2019

นักลงทุนยังคงติดตามการสถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนและการตอบสนองจากทั่วโลก ประธานาธิบดี โจ ไบเดน จะเดินทางไปบรัสเซลส์ในวันพุธตามเวลาในสหรัฐฯ เพื่อร่วมประชุมสุดยอดพันธมิตร NATO ทั้งหมด ซึ่งจะประกาศคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติมและให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมยูเครนมากขึ้น

กระทรวงพาณิชย์รายงานยอดขายบ้านใหม่เดือนกุมภาพันธ์ลดลง 2% มาที่ระดับ 772,000 ยูนิต ต่ำกว่า 810,000 ยูนิตที่นักวิเคราะห์คาด

ด้าน คาร์ล ไอคาห์น activist investor ผู้ก่อตั้งและประธาน Icahn Enterprises ที่รู้จักกันดีให้สัมภาษณ์รายการ Closing Bell ของซีเอ็นบีซีว่า “เศรษฐกิจตกต่ำอาจเกิดขึ้นได้ โดยอาจเจอภาวะถดถอยหรือแย่กว่านั้น”

ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง นำโดยกลุ่มสาธารณูปโภคที่ลดลง 2.5% แต่กลุ่มน้ำมันและก๊าซเพิ่มขึ้น 2% นักลงทุนยังกังวลภาวะเงินเฟ้อสูง หลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นอีกครั้ง รวมทั้งสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน

ในสหราชอาณาจักร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังประกาศลดภาษีน้ำมันโดยมีผลทันทีและการลดหย่อนภาษีในระยะยาวสำหรับคนงาน เพื่อลดผลกระทบต่อค่าครองชีพที่สูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ของประเทศ

ในเดือนกุมภาพันธ์ อัตราเงินเฟ้อของสหราชอาณาจักรเพิ่มขึ้น 6.2% ต่อปี สูงสุดนับตั้งแต่มีนาคม 1992 จากค่าอาหาร เชื้อเพลิง และพลังงานที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้วิกฤตค่าครองชีพยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น

นักลงทุนยังเกาะติดตามเหตุการณ์ในยูเครนอย่างใกล้ชิด รวมทั้งการประชุมสุดยอด NATO ซึ่งประธานาธิบดี โจ ไบเดน สหรัฐฯและพันธมิตรในยุโรปจะประกาศมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติม ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 454.03 จุด ลดลง 4.62 จุด, -1.01%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,460.63 จุด ลดลง 16.09 จุด, -0.22%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,581.43 จุด ลดลง 77.98 จุด, -1.17%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 14,283.65 จุด ลดลง 189.55 จุด, -1.31%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น ขึ้น 5.66 ดอลลาร์ หรือ 5.2% ปิดที่ 114.93 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนืองวดส่งมอบเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้น 6.12 ดอลลาร์ หรือ 5.3% ปิดที่ 121.60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล