HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นเช้านี้บวก 6.27 จุด ราคาน้ำมันอ่อนลง-มีแรงขายพันธบัตรต่อเนื่อง เม็ดเงินไหลเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น แม้ยังต้องระวังเศรษฐกิจโลกชะลอตัวจากผลกระทบสถานการณ์ยูเครน และเฟดมีแนวโน้มเร่งขึ้นดอกเบี้ย หุ้นที่ถูกขายในวันก่อน ไม่ว่าจะเป็นโรงไฟฟ้า-อิเล็กทรอนิกส์ น่าจะทยอยดีดตัวกลับ จากเล่นเก็งกำไร และหุ้นกลุ่มธนาคาร ที่ถูกปรับลดเครดิตน่าจะขยับตัวขึ้น
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์วันที่ 24 มี.ค.2565 ปรับตัวขึ้น ณ เวลา 9.58 น. อยู่ที่ระดับ 1,684.14 จุด เพิ่มขึ้น 6.27 จุด หรือ +0.37% มูลค่าซื้อขาย 1,756.12 ล้านบาท
บล.ฟินันเซีย ไซรัส มองตลาดหุ้นวันนี้การลงทุนที่เป็นบวกขึ้นเล็กน้อย ราคาน้ำมันดิบอ่อนลง ขณะที่พันธบัตรมีแรงขายต่อเนื่องและไหลเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยงสูงอย่างหุ้นมากขึ้น อย่างไรก็ตาม มองว่าเป็นเพียงระยะสั้น และยังคงมุมมองระมัดระวังต่อเศรษฐกิจโลกที่จะเติบโตในอัตราที่ชะลอตัวจากผลกระทบของสงครามรัสเซีย-ยูเครนและมาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตก ขณะที่อัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มปรับขึ้นในอัตราเร่ง 0.5% ในการประชุมเดือน พ.ค. รวมถึงเริ่มมาตรการลดขนาดงบดุล ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันการปรับขึ้นของสินทรัพย์เสี่ยงในระยะยาว
ขณะที่ภาพเศรษฐกิจในประเทศทยอยฟื้นตัวต่อเนื่องตามการผ่อนคลายมาตรการคุมโควิด-19 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในครึ่งหลังปี 65 หลังประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น ภาพรวมจึงยังสอดคล้องกับกลยุทธ์ที่เน้นหุ้น Value และ Domestic Play ซึ่งทนทานต่อภาวะเงินเฟ้อและนโยบายการเงินของเฟดที่ตึงตัวได้ดี กลุ่มที่ชอบยังคงเป็น ธนาคาร ค้าปลีก อสังหาฯ อาหารและเครื่องดื่ม การแพทย์ เป็นต้น
หุ้นเด่นวันนี้ TACC “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 8.70 บาท ระยะสั้นแนวโน้มกำไรครึ่งแรกปี 65 ยังดูดีและเข้า High Season โดยรายได้เติบโตทั้งจากธุรกิจเครื่องดื่มทั้ง 7-11 และ Non 7-11 รวมถึงธุรกิจ Character ที่ดีขึ้น ส่วนฝั่งต้นทุนยังกระทบไม่มากด้านผู้บริหารยังตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 10-15% เร่งตัวตามการ Reopening และการใช้ชีวิตที่ปกติมากขึ้น ส่วนฝั่งต้นทุนหากในครึ่งหลังปี 65 ยังไม่ผ่อนคลายอาจพิจารณาปรับขึ้นราคาขาย โดยยังคาดกำไรปีนี้โตแข็งแรง +9% Y-Y พร้อมให้แนวรับ 7.40-7.30 บาท แนวต้าน 7.55 ถัดไป 7.80-8 บาท
บล.เคทีบีเอสที คาดดัชนีฯ มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ หลังลดกังวลในเรื่องดอกเบี้ยเฟด นักลงทุนรอประชุมนาโต้ โดยสถานการณ์ยูเครน-รัสเซีย ตลาดรอประชุม นาโต้ และสหรัฐฯ ในวันพรุ่งนี้ ด้วยโอกาสที่สองฝ่ายจะเปิดเจรจาเพื่อแก้ปัญหา แม้รัสเซียจะถูกคว่ำบาตรมากขึ้นเรื่อยๆ แต่นักลงทุนไม่ได้กลัวในเรื่องนี้มากนัก จึงมีแรงซื้อกลับ ราคาน้ำมัน-ทองคำ-ดอลลาร์ ที่เป็นมาตรวัดความกลัว ต่างลดลงในวันที่ผ่านมา รวมถึงเช้าวันนี้ด้วย
กลยุทธ์การลงทุน ตลาดพลิกกลับมาดี หลังราคาน้ำมันและสินทรัพย์ปลอดภัยปรับตัวลง หุ้นที่ถูกขายในวันก่อน ไม่ว่าจะเป็นโรงไฟฟ้า-อิเล็กทรอนิกส์ น่าจะทยอยดีดตัวกลับ โดยมองว่าพอจะเล่นเก็งกำไรในกลุ่มนี้ได้ พร้อมมองว่า หุ้นกลุ่มธนาคาร ที่ถูกปรับลดเครดิต (downgrade) ไป (SCB, KBANK, KTB, TTB) น่าจะขยับตัวขึ้นต่อ หุ้นเด่นที่สุดในกลุ่มนี้ ที่น่าซื้อกลับ ยังคงเป็น KBANK
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
KBANK อยู่ที่ 159.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ +0.63% มูลค่าซื้อขาย 255.04 ล้านบาท
BBL อยู่ที่ 138.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ +1.10% มูลค่าซื้อขาย 90.43 ล้านบาท
KCE อยู่ที่ 65.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ +2.36% มูลค่าซื้อขาย 84.09 ล้านบาท
TOP อยู่ที่ 53.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท หรือ +1.42% มูลค่าซื้อขาย 62.61 ล้านบาท
PTT อยู่ที่ 39.25 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 55.15 ล้านบาท