HoonSmart.com>>ดาวโจนส์ร่วง 201 จุด ประธานเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยมากกว่า 0.25% นโยบายเชิงรุกเพื่อคุมเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีแตะระดับ 2.28% ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ เพิ่มขึ้น 7% ทะลุ 115 ดอลลาร์ ด้านตลาดหุ้นยุโรปมีทั้งบวกและลบ นักลงทุนประเมินสถานการณ์การเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดจากสายพันธุ์ใหม่
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 21 มี.ค. 2565 ปิดที่ 34,552.99 จุด ลดลง 201.94 จุด หรือ 0.58% หลังจากประธานธนาคารกลาง(เฟด) เตือนถึงเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นและให้คำมั่นว่าจะดำเนินการนโยบายเชิงรุกเพื่อคุมเงินเฟ้อ ทำให้นักลงทุนวิตกมากขึ้นมากขึ้นจากที่กังวลผลกระทบของสงครามรัสเซียกับยูเครนอยู่แล้ว
ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 4,461.18 จุด ลดลง 1.94 จุด, -0.04%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,838.46 จุด ลดลง 55.38 จุด, -0.40%
นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด กล่าวในการเสวนาของ National Association for Business Economics เมื่อวานนี้ว่า “อัตราเงินเฟ้อสูงเกินไป” และให้คำมั่นที่จะดำเนินการ “ที่จำเป็น” เพื่อคุมเงินเฟ้อ และบ่งชี้ว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจเปลี่ยนจากการขึ้นครั้งละ 0.25% แบบเดิมเป็นการเพิ่มขึ้น 0.50% หากจำเป็น
นักลงทุนมองว่ามีโอกาส 60.7% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนพฤษภาคมของเฟด ซึ่งเพิ่มขึ้นจากประมาณ 52% ที่สำรวจครั้งก่อน
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีแตะระดับ 2.28% สูงสุดนับตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม 2019 หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกาเพิ่มขึ้น 0.3%
อัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีกมีผลต่อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หุ้นเมตา แพลตฟอร์มลดลง 2.3%
หุ้นโบอิ้งร่วงลง 3.6% หลังจากเครื่องบินโดยสารโบอิ้ง 737 ของสายการบินไชน่าอีสเทิร์นแอร์ไลน์ตก การลดลงของหุ้นโบอิ้งฉุดดัชนีดาวโจนส์
ในทางกลับกัน หุ้นกลุ่มพลังงานเพิ่มขึ้นจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยหุ้นออกซิเดนทอล ปิโตรเลียม หุ้นมาราธอนออยล์ต่างเพิ่มขึ้นกว่า 8% หุ้นเอ็กซอน โมบิล เพิ่มขึ้น 4.53% หุ้นเชฟรอน เพิ่มขึ้น 1.8%
ราคาน้ำมันดิบ Brent เพิ่มขึ้นมากกว่า 7% ทะลุ 115 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังกลุ่มประเทศในสหภาพยุโรปพิจารณาที่จะเข้าร่วมกับสหรัฐฯ ในการคว่ำบาตรน้ำมันรัสเซีย
นักลงทุนยังเกาะติดสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน เตือนว่าหากการเจรจาสันติภาพกับผู้นำรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ล้มเหลว นั่นอาจหมายถึงการเริ่มต้น “สงครามโลกครั้งที่สาม”
เจ้าหน้าที่ยูเครนและรัสเซียประชุมกันเป็นระยะเพื่อเจรจาสันติภาพ ซึ่งล้มเหลวในการบรรลุประเด็นสำคัญๆ ยูเครนยังได้ปฏิเสธอย่างเด็ดขาดที่จะมอบเมืองมาริยูปอล ให้กับกองทัพรัสเซีย
นักลงทุนยังประเมินสถานการณ์การเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดในยุโรปจากสายพันธุ์ใหม่
ตลาดหุ้นยุโรปมีทั้งบวกและลบ นำโดยกลุ่มเหมืองแร่ที่เพิ่มขึ้นกว่า 4.3% ขณะที่สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนยังคงมีผลต่อการลงทุน รวมทั้งราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นหลังจากชาติยุโรปเตรียมที่จะคว่ำบาตรน้ำมันรัสเซีย
ด้านกลุ่มเดินทางและสันทนาการลดลง 1.8% หลังจากเครื่องบินโดยสารโบอิ้ง 737 ของสายการบินไชน่าอีสเทิร์นแอร์ไลน์ตก
นักลงทุนยังจับตาสถานการณ์การเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดในยุโรปจากสายพันธุ์ย่อยของโอมิครอน
ในเยอรมนีดัชนีราคาผู้ผลิตเพิ่มขึ้นมากกว่า 0.25% ในเดือนกุมภาพันธ์เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันในปี 2021 และเพิ่มขึ้น 1.4% เมื่อเทียบกับเดือนมกราคม สะท้อนถึงต้นทุนโรงงานที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ความเสี่ยงต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยเพิ่มขึ้น
นางคริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางสหภาพยุโรป( ECB) กล่าวว่า นโยบายการเงินของสหภาพยุโรปและสหรัฐฯ จะไม่สอดคล้องกัน เนื่องจาก ECB ชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำเป็นประวัติการณ์ “นโยบายการเงินของเราจะไม่ดำเนินไปในจังหวะเดียวกัน”
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 454.79 จุด เพิ่มขึ้น 0.19 จุด, +0.04
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,442.39 จุด เพิ่มขึ้น 37.66 จุด, +0.51%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,582.33 จุด ลดลง 37.91 จุด, -0.57%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 14,326.97 จุด ลดลง 86.12 จุด, -0.60%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 7.42 ดอลลาร์ หรือ 7.09% ปิดที่ 112.12 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนืองวดส่งมอบเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้น 7.69 ดอลลาร์ หรือ 7.12% ปิดที่ 115.62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล