HoonSmart.com>> ดัชนีหุ้นแกว่งตัวแคบ ปิดภาคเช้าที่ 1,675.87 จุด ลดลง 2.64 จุด หลังไร้ปัจจัยใหม่มาผลักดัน เช่นเดียวกับตลาดภูมิภาค ปัจจัยหลักยังอยู่ที่สถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน ที่ยังกดดันตลาด แต่ตลาดเริ่มชินกับความรุนแรงทำให้กดดันเล็กน้อย โดยรับแรงกดดันจากกลุ่มแบงก์หลังวิตกการฟื้นตัวเศรษฐกิจ แนวโน้มภาคบ่ายแกว่งแคบในกรอบ 1,670-1,690 จุด
ตลาดหุ้นวันที่ 21 มี.ค.2565 ดัชนีปิดภาคเช้าที่ระดับ 1,675.87 จุด ลดลง 2.64 จุด หรือ -0.16% มูลค่าการซื้อขาย 42,516.63 ล้านบาท โดยดัชนีขึ้นไปแตะ 1,685.78 จุด และต่ำสุด 1,674.46 จุด
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นเช้านี้แกว่งแคบหลังจากที่ไม่มีปัจจัยใหม่มาผลักดัน เช่นเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ.ในกรอบแคบราว 0.2-0.4% โดยปัจจัยหลักยังอยู่ที่สถานการณ์ระหว่างรัสเซีย และยูเครน แม้รัสเซียจะมีการยิงมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ตลาดฯก็เริ่มชินกับความรุนแรง ทำให้เป็นปัจจัยที่กดดันตลาดเล็กน้อย โดยตลาดรับแรงกดดันจากหุ้นในกลุ่มธนาคาร หลังวิตกการฟื้นตัวเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ดี ตลาดฯยังได้รับแรงเก็งกำไรจากหุ้นพวก Domestic play อย่างหุ้นในกลุ่มค้าปลีก, เครื่องดื่ม และสื่อสาร ที่มีแรงเก็งกำไรเข้ามา พร้อมให้ติดตามตัวเลขส่งออกของไทย และสถานการณ์ระหว่างรัสเซีย และยูเครน
สำหรับแนวโน้มภาคบ่าย ตลาดคงจะแกว่งแคบ เนื่องจากไม่มีปัจจัยสำคัญ โดยให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,670-1,690 จุด
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
KBANK ปิดที่ 158.50 บาท ลดลง 3.00 บาท หรือ -1.86% มูลค่าซื้อขาย 2,818.92 ล้านบาท
TRUE ปิดที่ 4.96 บาท เพิ่มขึ้น 0.06 บาท หรือ +1.22% มูลค่าซื้อขาย 1,329.57 ล้านบาท
BBL ปิดที่ 135.00 บาท ลดลง 3.00 บาท หรือ -2.17% มูลค่าซื้อขาย 1,257.87 ล้านบาท
EA ปิดที่ 89.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ +1.13% มูลค่าซื้อขาย 967.36 ล้านบาท
SCC ปิดที่ 378.00 บาท ลดลง 3.00 บาท หรือ -0.79% มูลค่าซื้อขาย 960.03 ล้านบาท