หุ้นปิดลบ 3.25 จุด ฟุตซี่ลดน้ำหนักหุ้นไทยกดดัน ต่างชาติขาย 2.2 พันลบ.

HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นปิดลบ 3.25 จุด แกว่งแคบหลังไร้ปัจจัยใหม่ ประกอบฟุตซี่ปรับลดน้ำหนักหุ้นไทย แต่ได้แรงหนุนกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมันขึ้น และกลุ่มท่องเที่ยวหลังรัฐฯปลดล็อกเข้าไทยไม่ต้องตรวจ RT-PCR ก่อนเดินทาง เริ่ม 1 เม.ย.นี้ พร้อมจับตาการหารือผู้นำจีน-สหรัฐฯเกี่ยวกับสถานการณ์ นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 2,234.60 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 1,058.38 ล้านบาท ส่วนแนวโน้มสัปดาห์หน้าแกว่งแคบ โดยให้แนวรับ 1,670 แนวต้าน 1,690 จุด

ตลาดหลักทรัพย์วันที่ 18 มี.ค.2565 ดัชนีปิดที่ระดับ 1,678.51 จุด ลดลง 3.25 จุด หรือ -0.19% มูลค่าซื้อขาย 98,135.25 ล้านบาท โดยดัชนีแตะสูงสุด 1,685.68 จุด ต่ำสุด 1,677.16 จุด

นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 2,234.60 ล้านบาท และบัญชีหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 1,374.37 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 1,058.38 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิ 198.16 ล้านบาท

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้แกว่งแคบหลังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา ประกอบกับฟุตซี่จะปรับลดน้ำหนักลงทุนหุ้นไทยวันนี้ ทำให้เผชิญแรงขายออกมาบ้าง อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันได้ปรับตัวขึ้นทำให้หุ้นในกลุ่มต้นน้ำ และโรงกลั่นช่วยหนุนนตลาด ประกอบกับภาครัฐฯได้ปลดล็อกนักท่องเที่ยวเข้าไทย ไม่ต้องตรวจ RT-PCR ก่อนเดินทาง เข้าประเทศ เริ่ม 1 เม.ย.นี้ ทำให้เป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว อย่างไรก็ดี ดัชนีรีบาวด์ขึ้นมาเข้าใกล้แนวต้าน 1,690 จุด ขณะที่ยังไม่มีปัจจัยใหม่ ทำให้ยากที่จะผ่านไปได้

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ ขณะที่ตลาดในยุโรปเทรดบ่ายนี้เปิดในแดนลบเล็กน้อย เช่นเดียวกับดาวโจนส์ฟิวเจอร์สที่ติดลบราว 100 จุด ท่ามกลางการรอดูการหารือระหว่างผู้นำของจีน และสหรัฐฯ ในวันนี้หลังจากที่ช่วงหลังจีนให้การสนับสนุนรัสเซียมากขึ้น และติดตามการเจรจาระหว่างรัสเซีย และยูเครน ซึ่งท้ายสุดก็ต้องรอดูว่าจะมีทางออกไหม อย่างไรก็ดีตลาดคงจะให้น้ำหนักลดลงเรื่อย ๆ หลังจากที่ผ่านจุดพีคไปแล้ว

ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นในสัปดาห์หน้า แกว่งแคบ เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยมาผลักดันตลาดฯ พร้อมให้ติดตามตัวเลขส่งออกของไทยที่จะออกมาในสัปดาห์หน้า และยังต้องติดตามสถานการณ์ยูเครนต่อไป โดยให้แนวรับ 1,670 จุด ส่วนแนวต้าน 1,690 จุด

5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
KBANK ปิดที่ 161.50 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ -0.92% มูลค่าซื้อขาย 5,189.79 ล้านบาท
PTTEP ปิดที่ 145.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ +1.05% มูลค่าซื้อขาย 4,330.47 ล้านบาท
CPALL ปิดที่ 67.25 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ -0.37% มูลค่าซื้อขาย 3,552.32 ล้านบาท
AOT ปิดที่ 65.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 2,933.55 ล้านบาท
JTS ปิดที่ 285.00 บาท ลดลง 6.00 บาท หรือ -2.06% มูลค่าซื้อขาย 2,459.79 ล้านบาท