TSR มั่นใจผลงานครึ่งปีหลังโตแกร่ง อานิสงส์บุกตลาดขายสินค้าผ่านออนไลน์ (e-commerce) ภายใต้โปรแกรม “ผ่อนสบาย” ควบคู่ไปกับการขายผ่านช่องทางโทรศัพท์ ช่วยดันยอดขายเติบโตต่อเนื่อง ด้านผู้ถือหุ้นเตรียมเริงร่าพร้อมรับเงินปันผล 0.08 บาท/หุ้น วันที่ 12 ก.ย.นี้
นายเอกรัตน์ แจ้งอยู่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เธียรสุรัตน์ (TSR) ผู้นำด้านการผลิตและจำหน่ายเครื่องกรองน้ำดื่มภายในครัวเรือน ภายใต้แบรนด์ “SAFE” (เซฟ) เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าเพิ่มช่องทางขายเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านผ่านพนักงานขายทางโทรศัพท์ ควบคู่ไปกับการขายทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องกรองน้ำผ่านการตลาดแบบ Digital ไม่ว่าจะผ่าน Line, Facebook, Lazada และอื่นๆ เพื่อกระตุ้นยอดขาย
“ในช่วงครึ่งปีหลังนี้บริษัทยังคงให้ความสำคัญและเน้นในเรื่องของการควบคุมค่าใช้จ่ายต่าง ๆ รวมถึงการควบคุมในส่วนของหนี้ไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งจะเห็นได้ว่าเริ่มเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น ซึ่งคาดว่าจะทำให้การเงินของบริษัทกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง นอกจากนี้เรายังให้ความสำคัญกับการทำธุรกิจในส่วนของ e-commerce ที่เติบโตทั้งในส่วนของเครื่องกรองน้ำ และเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยจุดแข็งที่สำคัญของเราคือโปรแกรม “ผ่อนสบาย” เจาะฐานลูกค้าที่ไม่มีบัตรเครดิต ทำให้ลูกค้าที่ต้องการสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าหรือเครื่องกรองน้ำสามารถแบ่งจ่ายได้ ไม่จำเป็นต้องใช้เงินก้อน ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างดีเยี่ยม อีกทั้งยังมีทีมเดินตลาดขายตรง ที่กระจายอยู่ตามพื้นที่ต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด เพื่อสร้างยอดขายให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง”นายเอกรัตน์ กล่าว
ส่วนผลการดำเนินงานในงวด 6 เดือนแรกของปี 2561 (1 ม.ค.-30 มิ.ย.2561) มีกำไรสุทธิ 51.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 57.22% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 32.96 ล้านบาท โดยได้รับปัจจัยบวกจากแผนในการลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่เริ่มทำอย่างจริงจังและต่อเนื่อง
นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้มีการเพิ่มพนักงานขายทางโทรศัพท์เพื่อรองรับการโทรศัพท์หาลูกค้าที่ได้มาจากฐานข้อมูลลูกค้าที่มีประวัติดีของบริษัทในอดีตที่ผ่านมา ด้วยการเชิญชวนให้มาซื้อสินค้าเครื่องกรองน้ำและเครื่องใช้ไฟฟ้า จนทำให้ยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านอื่นๆ เพิ่มขึ้น
อนึ่ง คณะกรรมการมีมติจ่ายปันผลสำหรับงวดผลการดำเนินงานในงวด 6 เดือนแรกของปีนี้ (1 ม.ค.-30 มิ.ย.2561) เป็นเงินสดในอัตรา 0.08 บาท/หุ้น กำหนดจ่ายในวันที่ 12 ก.ย.2561