หุ้น SCGP บวก 4.50% ตอบรับต้นทุนกระดาษและถ่านหินอ่อนลง

HoonSmart.com>>หุ้น SCGP บวก 4.50% ขานรับต้นทุนเศษกระดาษปรับลง 2 เดือนที่ผ่านมา ขณะที่ราคาขายบรรจุภัณฑ์ปรับขึ้น ทำให้มาร์จิ้นไม่แย่ ทั้งต้นทุนถ่านหินก็อยู่ในทิศทางอ่อนลง เช่นเดียวกับราคาน้ำมันด้วย ตามสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครนที่เริ่มกลับมาคุยกันแม้จะยังไม่คืบหน้า อีกทั้งปีนี้รับรู้เต็มปีจาก 5 โครงการที่ทำ M&P เมื่อปีที่แล้ว พร้อมมอง upside เพียบหลังราคาลงลึก

เมื่อเวลา 11.14 น.หุ้น SCGP บวก 4.50% มาอยู่ที่ 58.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 679.89 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 56 บาท ขึ้นสูงสุด 58.25 บาท และต่ำสุด 56 บาท

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า เลือกหุ้นบริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง (SCGP) เป็นหุ้น Top pick วันนี้ หลังจากที่ราคาลงลึก และในแง่ปัจจัยพื้นฐาน ต้นทุนเศษกระดาษได้ปรับตัวลงมา 2 เดือนที่ผ่านมา ขณะที่ราคาขายบรรจุภัณฑ์ได้มีการปรับขึ้นไป ทำให้มาร์จิ้นไม่ได้แย่ แม้คนจะกลัวเรื่องต้นทุนถ่านหินที่ก่อนหน้านี้ได้ขยับขึ้นไปกว่า 400 เหรียญฯ/ตัน แต่ล่าสุดทิศทางราคาถ่านหินเริ่มไหลลงแล้วมาอยู่แถว 370 เหรียญฯ/ตัน เช่นเดียวกับราคาน้ำมันที่อ่อนลง ตามสถานการณ์รัสเซีย และยูเครน ที่เริ่มกลับมาคุยกันมากขึ้น แต่ล่าสุดจะไม่เห็นความคืบหน้า

นอกจากนี้ ปีนี้ SCGP จะรับรู้ 5 โครงการที่ได้ทำ M%P ไว้เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งจะรับรู้เต็มปี พร้อมให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 75 บาท จะเห็นได้ว่ามี upside อยู่มาก จึงแนะนำให้”ซื้อ” ด้านสัญญาณทางเทคนิคให้แนวรับ 56 บาท ส่วนแนวต้าน 60-65 บาท

บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุ SCGP เป็นผู้นำตลาดบรรจุภัณฑ์ครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดใน South East Asia มีธุรกิจตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ โดยคาดกำไรปกติปี 65 ที่ 9.5 พันล้านบาท (+34%y-y) ตามรายได้ที่โต +5%y-y จากความต้องการบรรจุภัณฑ์ที่ฟื้นตัวใน ASEAN และยุโรป ระยะสั้นคาดกำไรไตรมาส 1/65 โต q-q จากราคากระดาษที่เพิ่มขึ้น ต้นทุนกระดาษที่ลดลง และปริมาณขายที่ฟื้นตัวตามเศรษฐกิจ

ด้าน Valuation เป็นหุ้นกลุ่มนำ Sector ที่มีความแข็งแกร่งในตลาดปัจจุบัน และยังมีการเติบโตสูง โดยปัจจุบันซื้อขายบน PER65 ที่ 25 เท่า

พร้อมประเด็นราคาน้ำมันและถ่านหินเริ่มปรับตัวลดลง ลดแรงกดดันในขาต้นทุน และเป็นหุ้นกลุ่มนำตลาดที่ธุรกิจมั่นคงและแข็งแรงมาก และเป็นรายใหญ่สุดในอาเซียน ที่โอกาสเติบโตยังสูงจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ใช้ E-commerce และ Food delivery มากขึ้น รวมถึง การทำ M&A ซึ่งมี Track record ที่ดี