หุ้นปิดพุ่ง 24.54 จุด อียูไม่แบนรัสเซีย ต่างชาติขาย 3.9 พันลบ.

HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นปิดพุ่ง 24.54 จุด ฟื้นตัวทางเทคนิคหลังหมดแรงฟอสเซล แนวเดียวกับตลาดในยุโรปที่บ่ายนี้บวกกว่า 3% หลังอียูไม่แบนรัสเซีย ส่งราคาน้ำมันเริ่มถอยกดดันกลุ่มพลังงานต้นน้ำให้ถูกขายทำกำไรออกมา นักลงทุนสถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 5,140.03 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศขายสุทธิ 1,458.62 ล้านบาท ส่วนแนวโน้มวันพรุ่งนี้ยังผันผวนตามสถานการณ์ยูเครนเป็นหลัก โดยให้แนวรับ 1,610 แนวต้าน 1,650 จุด

ตลาดหลักทรัพย์วันที่ 9 มี.ค.2565 ดัชนีปิดที่ระดับ 1,643.64 จุด เพิ่มขึ้น 24.54 จุด หรือ +1.52% มูลค่าซื้อขาย 115,051.73 ล้านบาท โดยดัชนีแตะสูงสุด 1,643.87 จุด ต่ำสุด 1,610.34 จุด

นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 3,986.45 ล้านบาท และบัญชีหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 305.04 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศขายสุทธิ 1,458.62 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 5,140.03 ล้านบาท

นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด บล.ธนชาต กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้ฟื้นตัวทางเทคนิคหลังจากที่แรงฟอสเซลออกมาเมื่อวานนี้จำนวนมาก พอหมดฟอสเซลหุ้นก็เด้งขึ้นเร็วมาก และต่อเนื่องมาถึงวันนี้ นอกจากนี้ตลาดในยุโรปเทรดบ่ายนี้ก็ฟื้นตัวดีปรับขึ้นกว่า 3% หลังจากที่อังกฤษ และสหรัฐฯ ระงับ(แบน)การนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย และคาดหวังว่าสหภาพยุโรป (อียู) จะระงับการนำเข้าพลังงานจากรัสเซียด้วย แต่อียูไม่เหมือนอังกฤษ และสหรัฐฯที่พึ่งพาน้ำมันจากรัสเซียน้อยมาก ขณะที่อียูพึ่งพาพลังงานจากรัสเซียถึง 40% ทำให้อียูไม่แบนรัสเซีย ดังนั้นมาตรการแบนจีงไม่มีผลต่อรัสเซียเท่าไร ส่งผลให้ราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นไป ก็เริ่มที่จะถอย และหุ้นในกลุ่มพลังงานต้นน้ำก็ถูกขายทำกำไรออกมา

ทั้งนี้ หากราคาพลังงานขึ้นต่อเนื่องก็จะทำให้เกิดความกังวลเงินเฟ้อที่อาจจะพุ่งขึ้น พร้อมให้ติดตามการประขุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 15-16 มี.ค.นี้ ซึ่งคาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% และตลาดก็รับรู้ในวงกว้างพอควร ช่วงนี้ตลาดเป็นลักษณะของการเลือกเล่นหุ้นรายตัวตามปัจจัยเฉพาะตัว อย่างหุ้น COM7 ปรับขึ้นเป็นการเล่นเก็งกำไรเรื่องที่เตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ เป็นต้น

ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นในวันที่ 10 มี.ค.2565 ช่วงนี้ตลาดคงจะยังผันผวนจากปัจจัยสถานการณ์ยูเครนเป็นหลัก โดยให้แนวรับ 1,610 จุด แนวต้าน 1,650 จุด

5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
KBANK ปิดที่ 159.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท หรือ +2.24% มูลค่าซื้อขาย 7,112.59 ล้านบาท
PTTEP ปิดที่ 146.00 บาท ลดลง 6.50 บาท หรือ -4.26% มูลค่าซื้อขาย 6,734.34 ล้านบาท
BBL ปิดที่ 134.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท หรือ +1.89% มูลค่าซื้อขาย 3,560.16 ล้านบาท
AOT ปิดที่ 64.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ +2.39% มูลค่าซื้อขาย 3,200.22 ล้านบาท
PTT ปิดที่ 38.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ +1.31% มูลค่าซื้อขาย 3,143.74 ล้านบาท