SEAOIL ขายกิจการ “ซีออยล์ ปิโตรเคมีคอล” มูลค่า 256 ลบ.

HoonSmart.com>> บอร์ด “ซีออยล์” ไฟเขียวขายหุ้น “ซีออยล์ ปิโตรเคมีคอล” ทั้งหมด 99.99% ให้ “เนเชอรัล เอ็นเนอร์ยี่ รีไฟเนอรี่” ได้รับเงิน 256 ล้านบาท คาดดำเนินการแล้วเสร็จไตรมาส 2/65 มุ่งเน้นธุรกิจหลัก สร้างโอกาสขยายธุรกิจเดิมให้กว้างขวาง และชำระเงินกู้สถาบันการเงิน พร้อมเคาะปันผลประจำปี 64 เป็นหุ้นปันผล สัดส่วน 15 ต่อ 1 พร้อมเงินสดหุ้นละ 0.0074074075 บาท เตรียมขึ้น XD 21 มี.ค.65 จ่ายเงิน 20 พ.ค.65

บริษัท ซีออยล์ (SEAOIL) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 7 มี.ค.2565 มีมติอนุมัติการขายหุ้นทั้งหมดที่บริษัทฯ ถืออยู่ในบริษัท ซีออยล์ ปิโตรเคมีคอล จํากัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ จํานวน 2,039,998 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 99.99% ของจํานวนหุ้นทั้งหมดของบริษัท ซีออยล์ ปิโตรเคมีคอล ให้แก่บริษัท เนเชอรัล เอ็นเนอร์ยี่ รีไฟเนอรี่ จํากัด ซึ่งผู้ซื้อเป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันของบริษัทฯ เนื่องจาก บริษัทนทลิน และนายเชิดชู ปานบุญห้อม เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฯ และผู้ซื้อ โดยการขายหุ้ในครั้งนี้บริษัทฯ จะได้รับค่าตอบแทนจากการขายหุ้นดังกล่าวจํานวน 256 ล้านบาท คาดว่าจะได้รับเงินหลังการขายหุ้นเสร็จสมบูรณ์คาดว่าภายในไตรมาส 2 ปี 2565

ปัจจุบันบริษัท ซีออยล์ ปิโตรเคมีคอล ประกอบกิจการผลิตและจําหน่ายโซลเว้นท์และผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมเหลว

การขายหุ้นในครั้งนี้ คณะกรรมการบริษัท (ไม่รวมกรรมการที่มีส่วนได้เสีย) พิจารณาและเห็นว่า เกณฑ์ที่ใช้ในการกําหนดราคาหุ้นในบริษัท ซีออยล์ ปิโตรเคมี ที่ขายไปนั้นมีความเหมาะสม และเป็นประโยชน์ต่อบริษัทเมื่อเปรียบเทียบกับการทําธุรกรรมกับบุคคลทั่วไป ที่มิได้มีความเกี่ยวข้องกันเป็นพิเศษ (arm’s length transaction) ดังนั้น การขายหุ้นทั้งหมดที่บริษัทฯถืออยู่ในบริษัทซีออยล์ปิโตรเคมีคอลจะส่งผลดีให้แก่บริษัทฯ เนื่องจากบริษัทฯ สามารถใช้เวลา ทรัพยากร บุคลากรและความสามารถมุ่งเน้นไปยังธุรกิจหลักปัจจุบัน ซึ่งเป็นธุรกิจที่บริษัทฯ เชี่ยวชาญเป็นอย่างดี รวมทั้งสร้างโอกาสในการขยายธุรกิจเดิมให้กว้างขวางและก่อให้เกิดรายได้ที่มากขึ้น

บริษัทฯ อาจนําเงินที่ได้จากการขายหุ้นไปใช้ในการชําระเงินกู้กับสถาบันการเงิน และนําไปใช้เป็นเงินลงทุนเพิ่มเติมสําหรับการขยายกิจการหรือลงทุนในโครงการหรือกิจการที่น่าสนใจในอนาคตที่สามารถให้อัตราผลตอบแทนตรงตามนโยบายการลงทุนของบริษัทฯ ซึ่งสามารถสร้างประโยชน์สูงสุดให้แก่บริษัทและผู้ถือหุ้นได้มากยิ่งขึ้น

คณะกรรมการบริษัทฯ ยังมีมติอนุมัติจ่ายปันผลเป็นหุ้นสามัญของบริษัทจำนวนไมเกิน 43,300,498 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ในอัตรา 15 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล รวมมูลค่าไม่เกิน 43,300,498 บาท หรือคิดเป็นอัตราจ่ายปันผลหุ้นละ 0.0666666667 บาท

ทั้งนี้ กรณีที่ผู้ถือหุ้นรายใดมีเศษของหุ้นเดิมหลังการจัดสรรหุ้นปันผลแล้วให้จ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดแทนการจ่ายเป็นหุ้นปันผลในอัตราหุ้นละ 0.0666666667 บาท

พร้อมกันนี้อนุมัติจ่ายปันผลเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.0074074075 บาทหรือคิดเป็นเงินประมาณ 4,811,167 บาท รวมเป็นการจ่ายปันผลทั้งในรูปของหุ้นปันผลและเงินสด เท่ากับอัตราหุ้นละ 0.0740740741 บาท คิดเป็นเงินรวมทั้งสิ้นประมาณ 48,111,665 บาท เงินปันผลทั้งหมดจะถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายตามอัตราที่กฎหมายกําหนด โดยกําหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับปันผลในวันที่ 22 มี.ค.2565 และกําหนดจ่ายปันผลในวันที่ 20 พ.ค.2565 โดยจะจ่ายเมื่อได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นแล้ว

บริษัทฯ จะเสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจําปี 2565 เพื่อพิจารณาอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนจากเดิมจํานวน 649,507,473 บาท เป็นทุนจดทะเบียน 692,807,971 บาท โดยการออกหุ้นสามัญใหม่จํานวน 43,300,498 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 1 บาท รวมเป็นจํานวนเงิน 43,300,498 บาท เพื่อรองรับการจ่ายหุ้นปันผล