HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นเช้านี้ร่วง 19.09 จุด บรรยากาศการลงทุนเป็นลบจากกังวลสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ไม่มีทีท่าดีขึ้น ขณะที่เม็ดเงินไหลออกสินทรัพย์เสี่ยงเข้าหาสินทรัพย์ปลอดภัย ราคาน้ำมันดิบพุ่งจากระงับรัสเซียส่งออกน้ำมัน-ก๊าซ ระยะสั้นหนุนหุ้นพลังงานต้นน้ำอย่าง PTTEP และ PTT รวมถึง BANPU ที่ได้อานิสงส์จากราคาถ่านหินที่ปรับขึ้นตาม แต่ปัจจัยกดดันต่อภาคการผลิตอย่างมากจากต้นทุนที่ปรับตัวขึ้น เล็งทดสอบแนวรับหลัก 1,655-1,660+- อีกครั้ง
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์วันที่ 7 มี.ค.2565 ปรับตัวขึ้น ณ เวลา 9.57 น. อยู่ที่ระดับ 1,652.63 จุด ลดลง 19.09 จุด หรือ -1.14% มูลค่าซื้อขาย 5,553.65 ล้านบาท
บล.ฟินันเซีย ไซรัส คาดตลาดหุ้นวันนี้จะปรับตัวลงทดสอบแนวรับหลัก 1,655-1,660+- อีกครั้งจากบรรยากาศการลงทุนที่เป็นลบ ตลาดกังวลสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ยังไม่มีท่าทีดีขึ้น ล่าสุดรัสเซียยืนยันยังคงปฏิบัติการทางทหารในยูเครนต่อเนื่องจนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย ขณะที่เม็ดเงินไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยง โดยเฉพาะหุ้นและคริปโต เข้าหาสินทรัพย์ปลอดภัยทั้งทองคำ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำมันดิบที่ล่าสุด Brent แตะ 130 เหรียญฯต่อบาร์เรลแล้ว จากการระงับรัสเซียส่งออกน้ำมันและก๊าซ
ระยะสั้นยังคงหนุนหุ้นพลังงานต้นน้ำอย่าง PTTEP และ PTT รวมถึง BANPU ที่ได้อานิสงส์จากราคาถ่านหินที่ปรับขึ้นตาม อย่างไรก็ตามจะเป็นปัจจัยกดดันต่อภาคการผลิตอย่างมากจากต้นทุนที่ปรับตัวขึ้นและสร้างแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ ขณะที่เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอ ทำให้เสี่ยงเกิดภาวะ Stagflation ซึ่งทำให้ธนาคารกลางโดยเฉพาะธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) และธนาคารกลางยุโรป ( ECB) ดำเนินนโยบายการเงินยากขึ้น ซึ่งจากสงครามและการคว่ำบาตรที่เสียงลากยาว จึงแนะนำให้พักเงินในกลุ่ม Defensive Play ที่กระทบจากต้นทุนการผลิตที่พุ่งจำกัด ได้แก่ การแพทย์ ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ สื่อสารฯ ค้าปลีก
หุ้นเด่นวันนี้ BDMS แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 29 บาท ระยะสั้นคาดกำไรไตรมาส 1/65 มีโอกาสเร่งตัว Q-Q จากสถานการณ์ระบาดของโอมิครอนที่เร่งตัวขึ้นอย่างมีนัยยะ ทำให้เตียงเริ่มกลับมาแน่นอีกครั้ง ขณะที่ผู้ป่วยที่ไม่ใช่โควิดฟื้นดีต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาส 4/64 และ ปี 65 จะเป็นปีที่ดีทั้งผู้ป่วยไทยและการฟื้นตัวของผู้ป่วยต่างชาติจากทั้งตลาดตะวันออก กลาง จีนและ CLMV คาดกำไรปี 2565 +30% Y-Y พร้อมให้แนวรับ 24//23.40 บาท แนวต้าน 24.70-25 ถัดไป 26-26.50 บาท
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
PTTEP อยู่ที่ 157.50 บาท เพิ่มขึ้น 7.00 บาท หรือ +4.65% มูลค่าซื้อขาย 450.46 ล้านบาท
PTT อยู่ที่ 39.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท หรือ +1.95% มูลค่าซื้อขาย 351.31 ล้านบาท
KBANK อยู่ที่ 157.00 บาท ลดลง 4.00 บาท หรือ -2.48% มูลค่าซื้อขาย 347.61 ล้านบาท
BANPU อยู่ที่ 12.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ +4.27% มูลค่าซื้อขาย 308.69 ล้านบาท
BBL อยู่ที่ 131.00 บาท ลดลง 4.00 บาท หรือ -2.96% มูลค่าซื้อขาย 306.87 ล้านบาท