“คิงส์ฟอร์ด” วางแนวรับ 1,655-1,660 จุด แนะ PLANB-GLOBAL

HoonSmart.com>> บล.คิงส์ฟอร์ด คาดแนวโน้มดัชนีปรับตัวลดลง แนวรับแรก 1,660 จุด รอประเมินสถานการณ์ยูเครน วันนี้เจรจาหยุดยิงรอบ 3 ด้านหุ้นแนะนำ PLANB-GLOBAL

บริษัทหลักทรัพย์คิงส์ฟอร์ด มองแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ วางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,655 – 1,660 จุด แนวต้าน 1,680 จุด คาดดัชนี Sideway Down รอประเมินสถานการณ์ยูเคน แนะนำซื้อเก็งกำไร PTTEP, BANPU / TWPC, TVO, UVAN (+ราคาอาหารปรับสูงขึ้น ) / OSP, BDMS, BCH ( +กลุ่ม Defensive ผันผวนน้อย )

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -0.53%, S&P500 -0.79%, Nasdaq -1.66% กังวลสถานการณ์ยูเครน หลังรัสเซียโจมตีโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์

ช่วงปลายสัปดาห์ดัชนีหุ้นทั่วโลกปรับลดลง หลังทหารรัสเซียโจมตีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาฟอริซเซีย ขณะที่การเจรจาหยุดยิงยังรอการเจรจารอบ 3 คาดจะขึ้นในวันนี้ ส่วนการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านยังไม่ข้อสรุป ส่งผลให้ WTI Futures +8.3% อยู่ที่ 125.3 ดอลลาร์ /บาร์เรล และกังวลเกิดภาวะ Stagflation (เศรษฐกิจชะลอตัว + เงินเฟ้อสูง)

สัปดาห์นี้วันพฤหัสติดตามการประชุม ECB คาดจะยังไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยจนกว่าถึง Q4 ปีนี้

ด้านหุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ PLANB (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 9.60 บาท) คาดผลประกอบการในปี 65 กลับมาเป็นกำไรจากอุตสาหกรรมสื่อโฆษณานอกบ้านที่ฟื้นตัวหลังผ่อนคลายล็อกดาน์ ขณะที่ธุรกิจบริหารสื่ออื่นๆ เช่น 7-11, Smart Bus และ Engagement Marketing จะดีขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจ ส่วน Synergy จากการซื้อสินทรัพย์จาก MACO บางส่วนจะทำให้ต้นทุนค่าประกันขั้นต่ำลดลง และการซื้อ บ.ย่อย ของ AQUA จะทำให้มี Capacity รวมเพิ่มเพิ่มขึ้น 1 พันล้านบาท โดยคาดสร้างรายได้เพิ่มราว 600 ล้านบาท ในปีนี้จาก UR ที่ 60% และรายได้จากสื่อเดิมในปีนี้บริษัทตั้งเป้าไว้ที่ราว 6-6.3 พันล้านบาท

หุ้น GLOBAL* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 25.75 บาท) ภาพรวมของการดำเนินงานในปีนี้ยังสามารถขยายตัวได้(ตลาดประเมิน EPS ปี65 และ 66 ที่ 0.75 และ 0.84 บ./หุ้น) จากกลยุทธ์ขยายสาขา(อัพฐานรายได้; เป้าปีนี้เปิดเพิม 7 สาขา จากปัจจุบัน 76 สาขา) และการเน้นสินค้า House Brand (ซึ่งจะปรับปรุงให้ GPM ขยับตัวดีขึ้น)

ขณะที่ปัจจัยขับเคลื่อนในระยะถัดๆไปจะเป็นการรุกเข้าไปยังตลาดตปท. โดย GLOBAL* ได้มีการเปิดสาขาแรกในกัมพูชาแล้ว และคาดว่าจะสามารถเปิดสาขาแรกในฟิลิปปินส์ได้ในปีนี้ นอกจากนี้บริษัทยังได้มีการร่วมกับ บ.ย่อยของ SCC* ในการเข้าไปลงทุนราว12.75% ใน CKDB (Depo Bangunan) ผู้นำร้านค้าปลีกสินค้าวัสดุก่อสร้าง ตกแต่งบ้านและสวนในประเทศอินโดนีเซีย