HoonSmart.com>> บล.คิงส์ฟอร์ด คาดแนวโน้มตลาดหุ้นทดสอบ 1,695 – 1,700 จุด ทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศสดใสขานรับประธานเฟดไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ย ส่งสัญญาณขึ้นเพียง 0.25% ด้านราคาน้ำมันดิบพุ่งต่อเนื่อง ติดตามสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน หุ้นแนะนำวันนี้ SGP-ZEN
บริษัทหลักทรัพย์คิงส์ฟอร์ด วางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,680 – 1,685 จุด แนวต้าน 1,695 – 1,700 จุด คาดทรงตัวรอประเมินสถานการณ์รัสเซีย – ยูเครน แนะนำซื้อ OSP, CBG, HMPRO, BDMS ( +กลุ่ม Defensive ) / เก็งกำไร PTTEP, BANPU, TOP / TTA, PSL, PRM / UVAN, VPO
วานนี้ กกร. ปรับคาดการณ์ GDP ไทยปีนี้อยู่ที่ 2.4 – 4.5 % จากเดิม 3 – 4.5% และเงินเฟ้อคาด 2 – 3% ส่วนยอดส่งออกไทย ม.ค. มีมูลค่า 2.12 หมื่น ล้านดอลลาร์ +8% YoY ตามคาดการณ์
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐปรับขึ้น หลังเจอโรม พาวเวลแถลงนโยบายการเงินรอบครึ่งปีต่อสภาผู้แทน ฯ จะปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งละ 0.25% เพื่อคุมเงินเฟ้อสูงขึ้นและตลาดแรงงานกลับสู่ภาวะปกติ โดย CME Fed Watch ชี้โอกาส 100% เฟดจะปรับขึ้น 0.25% ในการประชุม 15 – 16 มี.ค.
ขณะที่ Consensus คาดเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยปีนี้ 5 ครั้ง จากเดิม 7 ครั้ง ส่งผลให้ดอกเบี้ยสหรัฐปลายปีนี้คาดอยู่ที่ระดับ 1.25 – 1.50% โดยเฟดจะนำปัจจัยเสี่ยงรัสเซีย – ยูเครนมาพิจารณา ส่วนถ้อยแถลงประธานาธิบดีไบเดนวานนี้ ยังใช้มาตรการคว่าบาตรเศรษฐกิจกดดันรัสเซีย โดยจะไม่ส่งทหารเข้าไปสมรภูมิ ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงเกิดสงครามใหญ่
สำหรับตลาดน้ำมันเช้านี้ WTI Futures +2.20% อยู่ที่ 113.06 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังการประชุมโอเปกพลัสคงเพิ่มกำลังการผลิต 4 แสน บาร์เรล/วัน ใน เม.ย. ยังกังวลปริมาณน้ำมันดิบรัสเซียราว 4 – 5 ล้านบาร์เรล/วัน จะหายไปจากตลาด
ฝั่งเอเชียเช้านี้คาดได้ปัจจัยหนุนเฟดยังไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ย และยังรอความคืบหน้าการเจรจาหยุดยิงรัสเซีย – ยูเครน
สำหรับหุ้นแนะนำวันนนี้ ได้แก่ SGP (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย Consensus N.A.) บริษัทเผยแผนการดำเนินธุรกิจในปี 65 ตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จากปีก่อน โดยปริมาณขายก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) อยู่ที่ราว 3.65 ล้านตัน จากปี 64 ที่มีปริมาณขายอยู่ที่ 3.29 ล้านตัน ปรับตัวสูงขึ้นตามความต้องการใช้ที่มากขึ้น หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คลี่คลายในหลายประเทศ และเริ่มเปิดประเทศเพื่อรับนักท่องเที่ยว ส่งผลให้ภาคอุตสาหกรรมต่างๆ มีความต้องการใช้ก๊าซเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ระยะสั้นยังมีปัจจัยหนุนจากราคาอ้างอิง Saudi Aramco Propane/Butane เดือน มี.ค.ที่ปรับตัวขึ้นเป็น 895$/ton และ 920$/ton ผ่าน High ที่ทำไว้ในเดือน ก.ย.64 โดยราคากลับมาปรับตัวขึ้นอีกครั้งตามทิศทางราคาน้ำมัน จึงทำให้มี Demand LPG เป็น Feedstock ทดแทน Naphtha สำหรับการผลิตปิโตรเคมี
หุ้น ZEN (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 14.80 บาท) กำไรสุทธิในช่วง 4Q64 อยู่ที่ระดับ 10 ลบ. (-37% YoY, พลิกมีกำไรจากขาดทุนใน 3Q64 ที่ 60 ลบ.) ฟื้นตัวดี QoQ จากการ Reopening แม้จะถูกกดดันจาก Extra Item ที่เป็น Impairment อยู่ราว -18.1 ลบ. สำหรับการดำเนินงานช่วงถัดไป ยังมีปัจจัยหนุนจาก การกลับมานั่งทานอาหารในร้านมากขึ้น และ การขยายร้าน Franchise ที่มี Entry ในการเปิดไม่สูงอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ตัวแบรนด์ยังมีความแข็งแกร่ง ไม่ว่าจะเป็น ร้านเขียง, On the Table, ตำมั่ว, AKA, ZEN ทั้งนี้ตลาดคาดว่า EPS ของ ZEN* หลังจากขาดทุนในปี64 ที่ -0.31 บ./หุ้น จะกลับมาพลิกมีกำไรในปี65 และ ปี66 ที่ 0.33 บ./หุ้น และ 0.46 บ./หุ้น ตามลำดับ
