RATCH เพิ่มทุน 769 ล้านหุ้นขายผถห.เดิม 1.885 : 1 ปันผลอีก 1.35 บาท

HoonSmart.com>> บอร์ด “ราช กรุ๊ป” ไฟเขียวเพิ่มทุน 769.23 ล้านหุ้น เสนอขายผู้ถือหุ้นเดิม สัดส่วนไม่ต่ำกว่า 1.885 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ คาดมูลค่าระดมทุน 2.5 หมื่นล้านบาท นำเงินลงทุนโครงการทั้งในและต่างประเทศ ชำระหนี้และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน เคาะจ่ายเงินปันผลปี 64 เพิ่ม 1.35 บาท/หุ้น ขึ้น XD 17 มี.ค.65

บริษัท ราช กรุ๊ป (RATCH) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติเห็นชอบให้นำเสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2565 เพื่อพิจารณาเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ จาก 14,500 ล้านบาท เป็น 22,192.30 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญจำนวน 769.23 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท รวม 7,692.30 ล้านบาท เสนอขายผู้ถือหุ้นเดิมโดยไม่จัดสรรให้ผู้ถือหุ้นที่จะทำให้บริษัทฯ มีหน้าที่ตามกฎหมายต่างประเทศ (Preferential Public Offering : PPO) โดยจัดสรรในอัตราส่วนไม่ต่ำกว่า 1.885 หุ้นต่อ 1 หุ้นใหม่ กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับการเสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่ในวันที่ 9 พ.ค.2565 วันที่ไม่ได้รับสิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน (XR) วันที่ 6 พ.ค. 2565 และกำหนดระยะเวลาจองซื้อและชำระเงินในวันที่ 6-10 มิ.ย.2565

ทั้งนี้ ในเบื้องต้นบริษัทฯ คาดว่าจะมีมูลค่าของการเสนอขายหุ้น PPO รวมทั้งสิ้นประมาณ 25,000 ล้านบาท ภายใต้สมมติฐานว่าราคาเสนอขาย
ของหุ้นสามัญที่ออกใหม่ในการเสนอขายหุ้น PPO อยู่ที่ประมาณ 39 บาทต่อหุ้น1 อย่างไรก็ตาม ราคาเสนอขายหุ้น PPO ที่แท้จริงจะคำนวณจากราคาถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของหุ้นของบริษัทฯ ในช่วงเวลาตั้งแต่ 7 – 15 วัน ก่อนวันประชุมสามัญผู้ถือหุ้ประจำปี 2565 ในวันที่ 27 เม.ย.2565

บริษัทฯ คาดว่าจะสามารถดำเนินการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้นรวมทั้ง ได้รับเงินจากการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าวภายในไม่เกินเดือนมิ.ย.2565 โดยบริษัทฯ จะนำเงินที่ได้รับจากการเพิ่มทุนดังกล่าวไปใช้ลงทุนในโครงการต่าง ๆ ของบริษัทฯ ทั้งในและต่างประเทศ ทั้งที่มีอยู่แล้วในปัจจุบันและที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งรวมถึง (แต่ไม่จำกัดเพียง) การลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าในสาธารณรัฐอินโดนีเซีย การชำระหนี้ของบริษัทฯ และเพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานทั่วไป รวมถึงเงินทุนหมุนเวียนในกิจการของบริษัทฯ

คณะกรรมการบริษัทฯ ยังได้อนุมัติการจ่ายเงินปันผล ในอัตราหุ้นละ 2.50 บาท รวมเป็นเงิน 3,625 ล้านบาท คิดเป็น 46.64% ของกำไรตามงบการเงินรวม ซึ่งเมื่อวันที่ 23 ก.ย.2564 บริษัทฯ ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลแล้วในอัตราหุ้นละ 1.15 บาท จึงคงเหลือเงินปันผลจ่ายสำหรับงวดนี้ในอัตราหุ้นละ 1.35 บาท คิดเป็นเงินปันผลจ่ายจำนวน 1,957.50 ล้านบาท โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผลในวันที่ 18 มี.ค.2565 (Record Date) และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 20 พ.ค.2565