PTTEP-ESSO-BANPU ขึ้นนำกลุ่มพลังงาน ขานรับราคาน้ำมัน-ถ่านหินพุ่ง

HoonSmart.com>>ดัชนีกลุ่มพลังงานบวก 1.18% นำโดยหุ้น PTTEP-ESSO-BANPU-LANNA-TOP ขานรับราคาน้ำมัน-ราคาถ่นหินพุ่ง จากสถานการณ์ในยูเครน หลังรัสเซียใช้ปฏิบัติการทางทหารบุกโจมตียูเครนจะส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมัน

เมื่อเวลา 10.42 น.ดัชนีกลุ่มพลังงานบวก 1.18% มาอยู่ที่ 25,702.34 จุด เพิ่มขึ้น 298.91 จุด นำโดยหุ้น PTTEP พุ่ง 5.45% มาอยู่ที่ 145.00 บาท เพิ่มขึ้น 7.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 2,700.87 ล้านบาท
หุ้น ESSO พุ่ง 5.23% มาอยู่ที่ 8.05 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท มูลค่าซื้อขาย 218.08 ล้านบาท
หุ้น BANPU บวก 4.42% มาอยู่ที่ 11.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 1,703.06 ล้านบาท
หุ้น LANNA บวก 3.21% มาอยู่ที่ 22.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.70 บาท มูลค่าซื้อขาย 265.94 ล้านบาท
หุ้น TOP บวก 2.80% มาอยู่ที่ 55.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 816.35 ล้านบาท

บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) แนะนำ “ซื้อเก็งกำไรระยะสั้น” หุ้นกลุ่มน้ำมัน , โรงกลั่นและถ่านหินอย่างPTTEP PTT TOP SPRC BANPU LANNA จากการที่ราคาน้ำมันดิบเมื่อวานนี้พุ่งขึ้น 7.69 เหรียญ/บาร์เรลหรือ +8.03% ปิดที่ 103.41 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 22 ก.ค.2557 และเป็นการพุ่งขึ้นเป็นเปอร์เซ็นต์ในวันเดียวที่มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2563 เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าการที่รัสเซียใช้ปฏิบัติการทางทหารบุกโจมตียูเครนจะส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมัน นอกจากนี้ นักลงทุนยังมองว่าการที่สำนักงานพลังงานสากล (IEA) มีมติระบายน้ำมันออกจากคลังสำรองจำนวน 60 ล้านบาร์เรลนั้น เป็นการตอกย้ำว่าอุปทานน้ำมันโลกมีไม่เพียงพอที่จะรับมือกับภาวะชะงักงันในขณะนี้ในขณะที่ค่าการกลั่นก็ปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ 6.72 เหรียญ/บาร์เรล เพิ่มขึ้นจากต้นปีที่ 6 เหรียญ/บาร์เรลและสูงกว่าค่าเฉลี่ยไตรมาส 1/64 ที่ 1.78 เหรียญ/บาร์เรลมาก

นอกจากนี้ ราคาถ่านหินเมื่อวานนี้พุ่งขึ้นอีก 38.50 เหรียญ/ตัน หรือ +14.03% ปิดที่ 313 เหรียญ/ตัน ทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์(historical high) โดยราคาถ่านหินปรับเพิ่มขึ้นมาต่อเนื่อง 7 ใน 8 วันติดต่อกันจากระดับ 201.15 เหรียญ/ตัน เมื่อวันที่ 18 ก.พ.65 จนทำให้ราคาถ่านหินพุ่งขึ้นกว่า 112 เหรียญ/ตันใน 1 สัปดาห์หรือ +56% ในขณะที่ราคาหุ้นทั้ง BANPU และ LANNA ยังปรับขึ้นช้ากว่า(laggard) อยู่มาก โดยให้ราคาเป้าหมาย PTT PTTEP TOP SPRC ที่ 45.00, 149.00, 63.50 และ 12.00 บาทและ Bloomberg consensus ให้ราคาเป้าหมายของ BANPU ที่ 13.68 บาท

บล.เคทีบีเอสที ประเมินผลกระทบจากการทำสงครามของรัสเซีย การประกาศคว่ำบาตร (sanction) รัสเซียในด้านต่างๆ (ไม่รวมการส่งออกพลังงาน) หลังจากรัสเซียโจมตียูเครน ทำให้ประเทศและบริษัทคู่ค้าหลีกเลี่ยงที่จะทำธุรกรรมกับรัสเซียเนื่องจากความยุ่งยากในการทำธุรกรรมทางการเงินและความกังวลต่อความเป็นไปได้ในการทำ sanction เพิ่มเติมในอนาคต โดยบริษัทพลังงานชั้นนำ เช่น Exxon Mobil Corp, BP Plc และ Royal Dutch Shell Plc ได้ประกาศถอนตัวจากการลงทุนเพิ่มเติมในรัสเซีย ในขณะเดียวกัน น้ำมันดิบของรัสเซียก็ถูกขายที่ราคาส่วนลด (deep discount) อย่างมากจากเหตุการณ์นี้ สหรัฐฯ และ IEA เตรียมปล่อยน้ำมันดิบสำรอง 60ล้านบาร์เรล ทั้งนี้ในการประชุมของ สำนักงานพลังงานสากล (IEA) เมื่อวานนี้ (1 มี.ค.) ได้ข้อตกลงว่า สหรัฐฯ และประเทศสมาชิกของ IEA จะทาการระบายสำรองน้ำมันดิบออกมา 60 ล้านบาร์เรล (mmbbl) โดยประมาณครึ่งหนึ่งจะมาจาก สหรัฐฯ ทั้งนี้ ในช่วงเดือน พ.ย.2564 สหรัฐฯได้มีการประกาศระบายน้ำมันสำรอง 50 ล้านบาร์เรล

ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเป็นบวกต่อราคาน้ำมันในระยะสั้น โดยเชื่อว่าแม้จะไม่ได้มีการคว่ำบาตรการส่งออกพลังงานของรัสเซียโดยตรง แต่ก็ส่งผลต่อ trade flow ซึ่งทำให้คู่ค้าเหลีกเลี่ยงการซื้อน้ำมันดิบจากรัสเซียและทำให้เกิดอุปทานชะงักชะงัน (supply shortage) ของน้ำมันดิบโลก ทั้งนี้เชื่อว่าการปล่อยน้ำมันดิบสำรองที่ 60ล้านบาร์เรล (คิดเป็นประมาณ 20 วันของการส่งออกน้ำมันของรัสเซีย) จะมีผลกระทบจำกัด

ทั้งนี้ราคาน้ำมันดิบ Brent วานนี้ปิดบวก 4% เป็น 105.0 เหรียญฯ/บาร์เรล เป็นระดับที่สูงที่สุดตั้งแต่ปี 2558 นอกจากนี้ เชื่อว่าที่ประชุมกลุ่มโอเปกพลัส ในคืนนี้ (2 มี.ค.) จะยังคงมติทยอยการปรับเพิ่มกำลังผลิตน้ำมันดิบที่ 400 พันบาร์เรลต่อวัน (kbd) ในเดือน เม.ย. ต่อไป

พร้อมยังคงน้ำหนักการลงทุน “เป็นกลาง” สำหรับกลุ่มพลังงาน เลือก top pick เป็นPTTEP (ซื้อ/เป้า 150.00 บาท) และชอบหุ้นโรงกลั่น ทั้งนี้ เชื่อว่า PTTEP จะได้ประโยชน์จากแนวโน้มราคาขายเฉลี่ย (ASP) ที่แข็งแกร่งในไตรมาส 1/65 และแนวโน้มปริมาณยอดขายที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการรับรู้โครงการใหม่และ M&A ในอีก 2 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ ยังชอบ TOP (ซื้อ/เป้า 70.00 บาท) และ SPRC (ซื้อ/เป้า 11.50 บาท) โดยเชื่อว่าโรงกลั่นจะได้ประโยชน์จากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์น้ำมันและราคาน้ำมันดิบ (crack spread) ที่สูงในไตรมาส 1/65

บล.โนมูระ พัฒนสิน แนะนำ TOP ราคาเป้าหมาย 78 บาท ราคาน้ำมันดิบวานนี้ Brent บวกแรง 9.6% และยืนเหนือ 100 เหรียญ มาที่ 107 เหรียญ หนุน Stock gain ด้านการดำเนินงานปกติเด่นสุดในกลุ่มโรงกลั่นจากได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของ Gasoline และ Jet มากที่สุด

พร้อมจัดให้เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มฯ จากผลประกอบการระยะสั้น คาดกำไรปกติไตรมาส 1/65 โตทั้ง y-y, q-q จากค่าการกลั่นเพิ่ม y-y, q-q ตาม Spread Gasoline/Jet/ GO/LSFO เด่นจาก Demand ฟื้น และ Stock gain ตามน้ำมันดิบเพิ่มแรง และกำไรปี 65 ที่ 13,250 ล้านบาท (+5%y-y) รวมถึงระยะยาว ได้เปรียบด้านต้นทุนเหนือคู่แข่ง หลังโครงการพลังงานสะอาด( CFP) เริ่ม COD ปี 66

ด้าน Valuation ซื้อขาย P/BV ปี 65 ที่ 0.9 เท่า โดยแม้ระยะสั้นมี overhang จากราคาเพิ่มทุนที่ยังไม่ประกาศ แต่ผู้รับความเสี่ยงได้สามารถสะสมหุ้นเพื่อการเติบโตระยะยาว (เบื้องต้นประเมิน price dilution ไม่เกิน -5%)