สคร.เผยกองทุน TFFIF เตรียมเปิดขายเดือนต.ค.นี้ พร้อมโรดโชว์ทั่วประเทศและฮ่องกง สิงคโปร์ 16-20 ก.ย.นี้ ส่วนเฟส 2 จ่อลงทุน “มอเตอร์เวย์หมายเลข 7 และ 9”
นายประภาศ คงเอียด ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (Thailand Future Fund หรือ TFFIF) ว่าในวันที่ 16-20 ก.ย.นี้ กระทรวงการคลังมีแผนจะเดินทางไปให้ข้อมูลกับนักลงทุน (โรดโชว์) ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ได้แก่ ฮ่องกงและสิงคโปร์ ส่วนระยะเวลาในการเสนอขายหน่วยลงทุนนั้น นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ต้องการให้เปิดขายในช่วงสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนต.ค.นี้
สำหรับสัดส่วนการเสนอขายระหว่างนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนรายใหญ่ รวมถึงผลตอบแทนของกองทุนยังอยู่ในการพิจารณา ซึ่งการระดมทุนของรัฐเน้นขายนักลงทุนในประเทศเป็นหลักและกระจายรายย่อยให้มากที่สุด ส่วนผลตอบแทนคาดว่าจะน่าสนใจ ซึ่งปัจจุบันการพิจารณาแบบไฟลิ่งนั้นสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เร่งดำเนินการอยู่ คาดว่าปลายเดือนนี้จะเรียบร้อย
นอกจากนี้ สคร.ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาเพื่อแก้ไขกฎหมายของกรมทางหลวง โดยนำสิทธิรายได้ของทางหลวงพิเศษ (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 7 กรุงเทพ-ชลบุรี และหมายเลข 9 บางปะอิน-บางนา ของกรมทางหลวง เข้ามาระดมทุนในกองทุน TFF เฟส 2 ซึ่งหากแก้ไขกฎหมายเรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาต่อไป
ทั้งนี้ ทรัพย์สินกิจการโครงสร้างพื้นฐานที่กองทุน TFFIF จะลงทุนครั้งแรก ได้แก่ การลงทุนในสิทธิในรายได้ร้อยละ 45 ของค่าผ่านทางรวมสุทธิที่จัดเก็บได้จากเส้นทางปัจจุบันของทางพิเศษ 2 สาย เป็นระยะเวลา 30 ปี โดยที่การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ยังคงเป็นผู้บริหารจัดการตามปกติ ได้แก่ 1. ทางพิเศษฉลองรัช ระยะทาง 28.2 กิโลเมตร ที่เชื่อมต่อถนนวงแหวนรอบนอก กรุงเทพมหานคร ด้านตะวันออกบริเวณจตุโชติ เข้ากับทางพิเศษเฉลิมมหานคร บริเวณอาจณรงค์และทางพิเศษบางนา – อาจณรงค์ และ 2. ทางพิเศษบูรพาวิถี ระยะทาง 55 กิโลเมตร ซึ่งเป็นหนึ่งในทางยกระดับที่มีการจัดเก็บค่าผ่านทางที่มีระยะทางยาวที่สุดในประเทศไทย และมีจุดเริ่มต้นจากปลายทางพิเศษเฉลิมมหานครบริเวณบางนาไปทางทิศตะวันออก ข้ามแม่น้ำบางปะกง สิ้นสุดที่จังหวัดชลบุรี