III เร่งลงทุน-ANI เข้าตลาดหุ้นปีนี้ เป้า 3 ปี เล็งกำไรโต3 เท่า

HoonSmart.com>>”ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์” เดินหน้ากลยุทธ์ซื้อกิจการ-ร่วมธุรกิจ ขยายธุรกิจใหม่ ปี65ตั้งงบลงทุนรวม 500 ล้านบาท รายได้โตไม่ต่ำกว่า 20% เตรียมเปิดบริการส่งสินค้าทางรางไทย-ลาว-จีน ไตรมาสที่ 2  ส่ง ANI เข้าตลาดหุ้นไตรมาส 4 เปิดแผน 3 ปีข้างหน้ามองเป้ากำไรโต 3 เท่า หลังประสบความสำเร็จ กำไรกระโดดขึ้น 2 เท่ามาแล้ว

วิรัช นอบน้อมธรรม

นายวิรัช นอบน้อมธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายการเงิน บริษัท ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ (III) เปิดเผยว่า ในปี 2565 บริษัทตั้งงบลงทุน 500 ล้านบาท เท่ากับปีก่อน เพื่อใช้ในการเข้าร่วมลงทุนรวมถึงการซื้อกิจการ ปัจจุบันเจรจาดีลในประเทศ และต่างประเทศ อย่างละ 1 ดีล รวมถึงการขยายธุรกิจ โดยเตรียมเปิดให้บริการขนส่งทางราง ในเส้นทางไทย-ลาว-จีน ภายในไตรมาส 2 ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรแผนการลงทุนตู้คอนเทนเนอร์ และรูปแบบการร่วมลงทุน

ส่วนธุรกิจที่ดำเนินการในปัจจุบัน 4 กลุ่มก็มีการเติบโตที่ดี  และในปี 2565 บริษัทย่อย คือ บริษัท เอเชีย เน็ตเวิร์ค อินเตอร์เนชั่นแนล (ANI) คาดว่าจะสามารถนำเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ภายในไตรมาส 4 เพื่อสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาสู่การเป็นผู้นำด้านการให้บริการโลจิสติกส์ครบวงจรในภูมิภาค  โดยเป็นตัวแทนสายการบินต่างๆกว่า 20 สายการบิน และมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในประเทศไทย และมีสำนักงานครอบคลุม ฮ่องกง สิงคโปร์ เวียดนาม พม่า และกัมพูชา ส่วนธุรกิจโลจิสติกส์สำหรับสินค้าอันตรายและเคมีภัณฑ์ เตรียมขยายพื้นที่คลังอีก 2,000-3,000 ตารางเมตร จากปัจจุบันมีการใช้พื้นที่เต็มทั้งหมดแล้วกว่า 25,000 ตารางเมตร

สำหรับเป้าหมายการเติบโตของรายได้ในปี 2565 คาดไว้ไม่ต่ำกว่า 20% จากปีก่อน อยู่ที่ 3,012.94 ล้านบาท ธุรกิจขนส่งทางอากาศ ขนส่งทางเรือ โลจิสติกส์สำหรับสินค้าอันตรายและเคมีภัณฑ์ ยังมีความต้องการการขนส่งที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และค่าขนส่งยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูงด้วยเช่นกัน ส่วนเงินลงทุนในบริษัทต่างๆ ก็ได้รับกำไร ตามการเติบโตของธุรกิจ เช่น การร่วมทุนกับบริษัท สบาย เทคโนโลยี พัฒนาธุรกิจให้ ShipSmile เติบโตเร็วมาก มีสาขาประมาณ 5,000 สาขา และตั้งเป้าหมายครบ 9,000 สาขาในปีนี้ บริษัทถือหุ้น 43% ในปีที่ผ่านมามีส่วนแบ่งกำไร

นายวิรัชกล่าวถึงแผน 3 ปี ว่าบริษัทตั้งเป้าภายในว่ากำไรอาจจะเป็น 3 เท่า  เมื่อเทียบกับฐานปี 2564 น่าจะเป็นไปได้ หลังจากบริษัทสามารถทำกำไรโต 2 เท่ามาแล้ว ส่วนราคาหุ้นขอให้มีเสถียรภาพ แต่จะขึ้นไปเท่าไร ต้องพิจารณา P/E ของกลุ่มโลจิสติกส์ในแต่ช่วงประกอบ ตอนนี้สูงมาก 30 เท่า ถ้าผ่านไป 3 ปีอาจจะเหลือ 20% ก็เป็นไปได้

ด้านราคาหุ้น III ปิดที่ 15.50 บาท -0.50 บาทหรือ-3.12% มูลค่าการซื้อขาย133 ล้านบาท วันที่ 28 ก.พ.2565