HoonSmart.com>> สีเดลต้า โชว์ผลงานปี 64 รายได้ 749 ล้านบาท โต 26 % กำไรสุทธิ 53 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% อัตรากำไรขั้นต้น 41.9% โดยสีดิสนีย์ดันกำไรเติบโตเสริมทัพช่วง Q4 คาดเข้ามากระตุ้นตลาดสีในเมืองไทยให้สดใสอย่างต่อเนื่อง ตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 20% วางแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์สีไฮมาร์จิ้นอย่างต่อเนื่อง
นายรณฤทธิ์ ตั้งคารวคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สีเดลต้า (DPAINT) เปิดเผยถึง ความสำเร็จของผลประกอบการในปี 2564 DPAINT เติบโตตามเป้าหมายทั้งรายได้และกำไร บริษัทฯยังคงยึดหลักบริหารแบบ Kaizen มุ่งเน้นการจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ พร้อมชูผลิตภัณฑ์นวัตกรรมรุกตลาดกลุ่มพรีเมียม มอบความคุ้มค่าที่มากกว่า ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ ส่งผลให้ทิศทางธุรกิจมีแนวโน้มการเติบโตขึ้นอย่างน่าพอใจ ถือว่ามีความสามารถในการทำกำไรอย่างโดดเด่นในอุตสาหกรรม
ผลการดำเนินงานปี 2564 มีรายได้จากการขายและบริการ อยู่ที่ 749.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดปีก่อน 25.6% เป็นผลจากการเพิ่มไลน์สินค้าที่เปิดตัวใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์สีดิสนีย์ สีเดลต้า เมจิก ชิลด์ เริ่มวางจำหน่ายในช่วงไตรมาส 4 ผลตอบรับดีเกินคาด และการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายตามแผนธุรกิจ ส่งผลให้มีกำไรสุทธิ อยู่ที่ 52.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดปีก่อน 26.2% โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 41.9% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนอยู่ที่41.3% และสามารถรักษาอัตรากำไรสุทธิในระดับที่ดีที่ 7%
สำหรับสัดส่วนผลิตภัณฑ์ในปี 2564 DPAINT มีสีคุณภาพพิเศษ 40% สีคุณภาพสูง28.6% และสีคุณภาพคุ้มค่า 31.4% ของรายได้รวมจากการขายและบริการ ผ่านช่องทางการจำหน่ายรวมกันมากกว่า 3,000 สาขา เกือบทั่วประเทศ ได้แก่ ร้านโมเดิร์นเทรด (Modern Trade) 1,000 สาขา ร้านค้าปลีก (Retail) 2,140 สาขา เพิ่มขึ้นถึง 18% จากปีก่อน และงานโครงการ รวมทั้ง การบริการเครื่องผสมสีที่นำไปติดตั้งให้ลูกค้าที่เป็นร้านค้าใช้งานปัจจุบันมีจำนวน 353 เครื่อง เพิ่มขึ้นจากปีก่อนจำนวน 133 เครื่อง
สำหรับภาพรวมปี 2565 เริ่มเดินหน้ากิจกรรมทางเศรษฐกิจเต็มกำลัง แม้ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด แต่มองว่าประชาชนเริ่มมีการปรับตัว และได้รับวัคซีนครอบคลุมเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะงานก่อสร้างมีการเปิดประมูลหลายโปรเจกต์ อีกทั้งการพัฒนาโครงการภาคเอกชน และการปรับปรุงอาคารที่อยู่อาศัยของผู้คน ส่งผลให้ความต้องการสีทาอาคารเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
“DPAINTวางเป้าหมายปี 2565 จะทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่อีกรอบ มั่นใจกับเป้าหมายรายได้เติบโตสม่ำเสมออย่างต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 20% พร้อมจัดทัพขยายองค์กร พัฒนาด้านธุรกิจหลัก และรุกตลาด Blue Ocean มากยิ่งขึ้น เตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีความโดดเด่นด้านนวัตกรรมเพิ่มเติม ขยายกลุ่มเซกเมนต์พรีเมียม เพื่อสนับสนุนอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ในระดับสูงมากกว่า 40% พร้อมวางแผนการลงทุนซื้อเครื่องผสมสีอีกประมาณ 150 เครื่อง สนับสนุนแผนการขยายตลาดเป็นวงกว้าง และพร้อมมุ่งเข้าสู่ตลาดชายแดน และกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจากเห็นช่องว่างทางการตลาดที่สดใส”นายรณฤทธิ์กล่าว
บริษัทได้เซ็น MOU ร่วมกับดีเวลลอปเปอร์ชั้นนำในตลาดของประเทศไทย เป็นจำนวน2 ราย สานสัมพันธ์กันยาวๆ ถึง 3 ปี เพื่อขยายตลาดอาคารทรงสูงที่มีอยู่ จะมีการเซ็น MOU ร่วมกับพันธมิตรรายใหม่เพิ่มเติมอีกในปีนี้ และยังคงรักษาความสัมพันธ์อันดีต่อลูกค้า และคู่ค้าที่มีอย่างยาวนานกว่า 40 ปี เพื่อการเติบโตและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง