HoonSmart.com>>”เสี่ยป๋อง”(วัชระ แก้วสว่าง)นักลงทุนรายใหญ่ “ปรับลดพอร์ต-ชะลอลงทุน”หนีศึกรัสเซีย-ยูเครน แต่ฟันด์โฟลว์ยังไหลเข้า ทำให้ตลาดแข็งแกร่ง ตอนนี้จึงรอจังหวะเหมาะสมกลับเข้าลงทุนอีกครั้ง มองดัชนีหลุด 1,680 จุด แล้วเด้งขึ้นไปได้ แค่พักฐานระยะสั้น แต่เมื่อไรหลุด 1,611 จุดก็ตัวใครตัวมัน ทิศทางตลาดปีนี้ยังมองแกว่ง Sideway up ส่วนคริปโตรอให้นิ่งก่อนค่อยซื้อ ด้านหุ้นขุดเหมืองบิทคอยน์แค่เล่นสั้น “ขายหมู” ไปแล้ว
นายวัชระ แก้วสว่าง นักลงทุนรายใหญ่ที่รู้จักกันในนาม”เสี่ยป๋อง” กล่าวว่า ในช่วงสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซีย และยูเครน ทำให้ปรับ”ลดพอร์ตลงทุน” และชะลอการลงทุนก่อน แต่หุ้นที่ถือระยะยาวก็คงถืออยู่ต่อไป ซึ่งยังถือหุ้น 50-60% ของพอร์ตลงทุน ที่เหลือถือเงินสดก่อน และรอคอยจังหวะที่เหมาะสมเข้าลงทุนอีกครั้ง เนื่องจากฟันด์โฟลว์ที่ยังไหลเข้ามาทำให้ตลาดหุ้นดูแข็งแกร่ง
“เพิ่งจะขายลดพอร์ตไปบ้างเหมือนกัน ช่วงนี้กลัวสงคราม เลยหยุดเล่นมา 3-4 วันแล้ว แต่เท่าที่ดูหุ้นขนาดใหญ่ยังแข็งแกร่ง อาจเพราะฟันด์โฟลว์ยังไหลเข้า ซึ่งไม่เพียงแต่ตลาดหุ้นไทย แม้แต่ตลาดอื่นในเอเชีย อย่างตลาดหุ้นอินโดนีเซีย ตลาดหุ้นเวียดนาม แข็งแกร่งเหมือนกัน ผมเล่นหุ้นเป็นอาชีพก็ต้องเฝ้าทุกวัน หาจังหวะในการเข้าไปซื้อใหม่หลังจากที่ขายไปก่อนหน้านี้”
ภาวะสงครามจากสถานการณ์ยูเครนไม่มองแย่ แต่กลัวจะมองผิดเหมือนกัน เพราะบุกกันแล้ว ซึ่งไม่แปลกเนื่องจากรัสเซีย และยูเครน ก็ฮึม ๆ กันมานานแล้ว ขอให้อย่าลุกลามไปประเทศอื่น ก็ไม่เป็นไร แต่ตอนนี้ดูว่าฝั่งยูเครนจะเอาเรื่องแค่ไหน
เสี่ยป๋อง กล่าวว่า แนวโน้มตลาดถ้าดัชนีฯหลุด 1,610 จุดลงมา ที่มองว่าจะขึ้นไป ก็อาจเปลี่ยนใจ แต่หลุดแค่ 1,680 จุด แล้วมีการเด้งกลับขึ้นไปได้ มองเป็นการพักฐานระยะสั้น ใครปรับพอร์ตไปแล้วสามารถซื้อกลับได้ หุ้นที่เล่นอยู่ก็หุ้นในกลุ่มธนาคาร, สื่อสาร, พลังงาน และช่วงนี้หุ้นเปิดเมือง หลังจากที่ภาครัฐฯว่าจะปรับโรคโควิดให้เป็นโรคประจำถิ่น เหมือนอย่างไข้หวัดธรรมดา ซึ่งจะทำให้คนกลับมาใช้ชีวิตปกติได้
“ทิศทางตลาดยังดีอยู่ เว้นแต่หลุด 1611 จุด ก็ตัวใครตัวมัน ผมเล่นตามกราฟ ที่ลดพอร์ตไป คงจะซื้อกลับแพงแล้วมั่ง ส่วนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด(ธนาคารกลางสหรัฐ) ตลาดรับรู้กันไปแล้ว ตลอดปีนี้ยังมองว่าตลาดน่าจะแกว่ง Sideway up มองเป้าหมายตามที่สมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์มองไว้ที่ 1,800 จุดสำหรับปีนี้ ในทางเทคนิคดูกราฟแล้วมีความเป็นไปได้”
นายวัชระ กล่าวต่อว่า ได้ทำการเปิดพอร์ต Bitkub แต่ตอนนี้ไม่ได้ลงทุนคริปโตเลย ก็รออยู่ให้ยืนได้ก่อนค่อยเข้าไปซื้อ ส่วนหุ้นในกลุ่มขุดเหมืองบิทคอยน์แค่เล่นสั้น ๆ ซึ่งขายก่อนที่จะขึ้นแรงมาก เรียกว่าขายหมูเลย
ด้านนายวิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล กรรมการผู้จัดการ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า ส่วนตัวให้น้ำหนักสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครนไม่มาก และการประชุมเฟดในเดือนมี.ค. ตลาดซึมซับข่าวการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.50% ไปแล้ว ยกเว้นมีมติปรับขึ้น 0.75% ถึงจะส่งผลกระทบต่อตลาด
กรรมการผู้จัดการ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า แนวโน้มฟันด์โฟลว์ยังคงไหลเข้าตลาดหุ้นTIP ไทย อินโดนีเซีย และฟิลลิปินส์ โดยเฉพาะอินโดนีเซียไหลเข้ามากที่สุด เนื่องจาก Real Yield -อัตราผลตอบแทนที่แท้จริงที่นักลงทุนจะได้รับจากการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลสูง ส่วนไทยมีสภาพคล่องสูง นับเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการตัดสินใจเข้ามาลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ และเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มการฟื้นตัว ในช่วงนี้ หุ้น domestic ธีมเปิดเมือง จึงได้รับความสนใจ อาทิ ห้างสรรพสินค้า CRC, AWC ค้าปลีก โรงพยาบาล ส่วนกลุ่มธนาคารขอเวลาพักตัว หลังจากราคาปรับตัวขึ้นแรงก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม ยังคงแนะนำหุ้นธนาคาร เนื่องจากราคาซื้อขายยังต่ำกว่ามูลค่าหุ้นทางบัญชี
ด้านตลาดหุ้นไทยและต่างประเทศตีกลับขึ้นมาแรงและเร็ว เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2565 นักลงทุนตื่นตระหนกเหตุการณ์รัสเซียโจมตียูเครน ทำให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ร่วงลงไป 33 จุด หรือเฉียด 2% แต่วันรุ่งขึ้น(25ก.พ.) ตลาดตีกลับขึ้นมา 17.18 จุดหรือ+1.03% ปิดที่ระดับ 1,679.90 จุดด้วยมูลค่าการซื้อขาย 87,772.73 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,477.30 ล้านบาท นักลงทุนไทยขาย-1,460.18 ล้านบาท คาดว่าเปิดการซื้อขายวันที่ 28 ก.พ. ดัชนีมีโอกาสปรับตัวขึ้นแรง ตามตลาดหุ้นต่างประเทศ หลังจากดัชนีดาวโจนส์ วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565 ปิดที่ 34,058.75 จุด พุ่งขึ้น 834.92 จุด หรือ 2.51% แม้ว่ายังประเมินความเสี่ยงทางการเงินจากการบุกโจมตียูเครนของรัสเซียและเกาะติดการตอบสนองจากทั่วโลกก็ตาม