HoonSmart.com>> “จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล” เปิดงบปี 64 ขาดทุนสุทธิ 1,500 ล้านบาท ลดลง 52% รายได้รวมเพิ่มขึ้นแตะ 2 หมื่นล้านบาท ค่าใช้จ่ายลดลง
บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) เปิดเผยผลการดำเนินงานงวดปี 2564 ขาดทุนสุทธิ 1,500.70 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 0.17 บาท ลดลงจากงวดปี 2563 ขาดทุนสุทธิ 3,134.02 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 0.37 บาท
บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้รวมจากการดำเนินงานอยู่ที่ 20,371 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,141 ล้านบาท หรือ 6% จากปี 2563 โดยมีรายได้จากส่วนงานให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและอินเทอร์เน็ตทีวีจำนวน 18,033 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 446 ล้านบาท หรือ 3% เนืองจากจำนวนผู้ใช้บริการ 3BB เพิ่มขึ้น ณ สิ้นปี 2564 มีผู้ใช้บริการรวม 3.65 ล้านราย โดยมียอดผู้ใช้บริการสำหรับลูกค้าทั่วไปในส่วนที่เป็น Fixed Broadband และที่สามารถเก็บเงินได้ประมาณ 2.43 ล้านราย โดยมีรายได้เฉลี่ยต่อราย (ARPU) อยู่ที่ 598 บาทต่อเดือน ขณะที่รายได้เฉลี่ยต่อราย (ARPU) ในไตรมาส 4 ปี 2564 อยู่ที่ 597 บาทต่อเดือน
รายได้จากส่วนงานจัดหา ออกแบบ และวางระบบสื่อสารและโทรคมนาคม จํานวน 1,131 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 218 ล้านบาท คิดเป็น 24% เป็นผลมาจากรายได้จากการให้บริการวงจรเช่าในประเทศและระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น ในส่วนของธุรกิจเหมืองขุดบิตคอยน์ ซึ่งเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 3 ที่ผ่านมานั้น ในปี 2564 รับรู้รายได้จากธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์จํานวนประมาณ 9.6 เหรียญบิทคอยน์ คิดเป็นเงิน 16.5 ล้านบาท
รายได้ส่วนงานอื่นและรายได้อื่น จํานวน 1,207 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 477 ล้านบาท หรือ 65% เมื่อเทียบปีก่อน เนื่องจากการบันทึกรายได้จากการกลับรายการหนี้สินของ TTTBB ในไตรมาส 4 ปี 2564 จํานวน 609 ล้านบาท และกําไรจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่ายุติธรรมของอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนสุทธิจํานวน 22 ล้านบาท จากเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชีเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนของบริษัท พรีเมียม แอสเซท จํากัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในกลุ่มบริษัทฯ ในไตรมาส 4 ปี 2564
ด้านค่าใช้จ่ายในการดําเนินงาน ซึ่งประกอบด้วยต้นทุนขายและบริการ ค่าใช้จ่ายในการขายและบริการ และค่าใช้จ่ายในการบริหาร ในปี 2564 อยู่ที่ 18,175 ล้านบาท ลดลง 605 ล้านบาท หรือ 3%
สำหรับเป้าหมายและแผนธุรกิจปี 2565 ในส่วนของธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์ของบริษัท จัสมิน เทคโนโลยีโซลูชั่น (JTS) เมื่อปีที่ผ่านมาได้ทําการศึกษาและทดลองการขุดบิตคอยน์ หาแหล่งเงินทุน ทําสัญญากับ Bitmain ที่เป็นเจ้าหลักในการผลิตเครื่องขุดบิทคอยน์และของความสนับสนุนเรื่องการใช้ไฟฟ้ากับทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เพื่อเตรียมความพร้อมที่จะเดินหน้าเต็มกําลังในธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์ รวมถึงการหาธุรกิจต่อยอดในเรื่อง crypto business
ธุรกิจบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จากสถานการณ์โควิด-19 ทําให้รูปการใช้ชีวิตเปลี่ยนไป บางบริษัทกําหนดให้ทํางานที่ออฟฟิศสลับกับ WFH อย่างจริงจัง อีกทั้ง lifestyle ในชีวิตประจําวัน ทําให้เกิดการ consume bandwidth ที่เพิ่มมากขึ้น ทําในบางบ้านมีความต้องการใช้อินเทอร์เน็ตในปริมาณที่เพิ่มมากขึ้น และความต้องการในแต่ละพื้นที่บริการไม่เหมือนกัน โดยบริษัทจะได้มีการจัดแพ็คเกจที่หลากหลาย และบริการเสริมต่างๆ เพิ่มมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการ เช่น ลูกค้าที่รายได้ไม่มาก ลูกค้าที่ต้องการบริการเสริมเพิ่มเติม หรือ ลูกค้าที่ต้องการความเร็วมากกว่า 1000 Mbps โดยบริษัทพร้อมให้บริการในไตรมาสที่ 2
ในส่วนของลูกค้าองค์กรนั้น บริษัทจะเน้นการหาพันธมิตร และนําเสนอ solution โดยการตั้งเป้าหมายรายได้เพิ่มจากเดิมไม่ต่ํากว่า 2 เท่า
ธุรกิจ IPTV ในชื่อ 3BB GIGA TV บริษัทให้บริการครบ 1 ปี ทําให้ยืนยันได้ว่าเป็นบริการที่ทําให้สามารถลด Churn ได้เป็นอย่างดีจากปีที่ผ่านมาเน้นลูกค้ากลุ่มแพ็คเกจสูง ในปี 2565 นี้บริษัทจะเริ่มขยายให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม โดยตั้งเป้าหมายให้มีผู้ใช้บริการ 2 ล้านรายภายในปี 2566
นอกจากนี้ยังมีการหารายได้เพิ่มจากบริการช่องแบบบอกรับสมาชิกแบบรายเดือน เช่น กอล์ฟ ชาแนล ไทยแลนด์ (Golf Channel Thailand HD+) การให้บริการเช่าหนังเป็นรายเรื่อง อีกทั้งหา Partner ที่ต้องการให้บริษัทเป็นช่องทางในการเก็บค่าบริการ เช่น WeTV, Netflix เป็นต้น รวมทั้งการเพิ่ม model ธุรกิจ ที่จะขยาย การให้บริการ 3BB GIGATV พรีเมี่ยมคอนเทนท์ไปยังบ้านพัก หอพัก และโรงแรมต่างๆ อีกด้วย บริษัทมีแผนต่อยอด บริการ IOT ด้วย Platform มาตรฐาน ที่สามารถให้บริการได้บน Mobile และ 3BB GIGATV Box พร้อมทั้งบริการ E-commerce และการเพิ่มช่องทางขายโดยพนักงานช่างของบริษัท ซึ่งคาดว่า จะให้บริการในไตรมาส 2 นี้