หุ้นปิดลบ 3.20 จุด ปัจจัยใน-นอกปท.กดดัน ต่างชาติซื้อ 1.3 พันลบ.

HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นปิดลบ 3.20 จุด ตามตลาดต่างประเทศ รับแรงกดดันจากสถานการณ์ความตึงเครียดรัสเซีย-ยูเครน ประกอบกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศเร่งตัวขึ้น นักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิ 2,731.21 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 1,799.99 ล้านบาท ส่วนแนวโน้มวันพรุ่งนี้ขึ้นอยู่กับการเจรจาถ้าออกมาดีก็จะทำให้ตลาดผ่อนคลายและหุ้นมีโอกาสที่จะรีบาวด์ขึ้นได้ พร้อมให้แนวรับ 1,670 แนวต้าน 1,700 จุด

ตลาดหลักทรัพย์วันที่ 22 ก.พ.2565 ดัชนีปิดที่ระดับ 1,691.12 จุด ลดลง 3.20 จุด หรือ -0.19% มูลค่าซื้อขาย 93,075.45 ล้านบาท โดยดัชนีแตะสูงสุด 1,691.62 จุด ต่ำสุด 1,673.31 จุด

นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 1,340.17 ล้านบาท และบัญชีหลักทรัพย์ขายสุทธิ 408.95 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 1,799.99 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิ 2,731.21 ล้านบาท

นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.คันทรี่ กรุ๊ป กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้ปรับตัวในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่จะติดลบ เช่นเดียวกับตลาดในยุโรปที่เทรดบ่ายนี้ก็ติดลบ รับแรงกดดันจากสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซีย และยูเครน แต่หลังจากที่มีข่าวว่าจะมีการเปิดเจรจากัน ซึ่งเป็นความพยายามที่จะพูดคุยกันไม่ให้เกิดสงครามขึ้น ทำให้ดัชนีฯลดช่วงลบลงจากที่ปรับตัวลงไปกว่า 10 จุดในระหว่างเทรด อย่างไรก็ดี จะต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป

นอกจากนี้ จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศที่เพิ่มขึ้น จนทำให้สาธารณสุขยกระดับขึ้นเป็นระดับ 4 ทำให้วิตกจะส่งผลต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจ ส่วนอิทธิพลจากการประกาศงบฯก็อาจจะลดน้อยลง ยกเว้นที่หุ้นที่งบฯออกมาดีมาก

ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นในวันที่ 8 ก.พ.2565 ขึ้นอยู่กับการเจรจาถ้าออกมาดีก็จะทำให้ตลาดผ่อนคลายและหุ้นมีโอกาสที่จะรีบาวด์ขึ้นได้ ดังนั้นจะต้องระวังการลงทุน หากยังไม่มั่นใจก็ให้พักรอดูสถานการณ์ก่อน พร้อมให้แนวรับ 1,670 จุด ส่วนแนวต้าน 1,700 จุด

5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
KBANK ปิดที่ 164.50 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ -0.30% มูลค่าซื้อขาย 5,161.83 ล้านบาท
PTT ปิดที่ 39.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ +0.65% มูลค่าซื้อขาย 3,096.73 ล้านบาท
CPALL ปิดที่ 67.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 2,645.49 ล้านบาท
AOT ปิดที่ 63.50 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ -2.31% มูลค่าซื้อขาย 2,362.50 ล้านบาท
SCB ปิดที่ 128.00 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ -0.39% มูลค่าซื้อขาย 2,316.40 ล้านบาท