HoonSmart.com>>หุ้น CHG-THG ขึ้นนำกลุ่มโรงพยาบาล เล็งผลงานฟื้นตัวหลังผู้ติดเชื้อโอมิเครอนกลับมาพุ่ง จากอัตราการใช้เตียงที่กลับมาอยู่ในระดับสูงขึ้น โดยกระทรวงสาธารณสุขประกาศยกระดับเตือนภัยโควิดระดับ 4 ทั่วประเทศ หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อในสัปดาห์ที่ผ่านมา (13-19 ก.พ.65) มียอดสะสมรวม 115,917 ราย
เมื่อเวลา 10.57 น.หุ้นในกลุ่มโรงพยาบาลที่เน้นรักษาในประเทศปรับตัวขึ้นทั่วหน้า นำโดยหุ้น CHG บวก 4.91% มาอยู่ที่ 3.42 บาท เพิ่มขึ้น 0.16 บาท มูลค่าซื้อขาย 374.97 ล้านบาท
หุ้น THG บวก 4.55% มาอยู่ที่ 46.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 56.63 ล้านบาท
หุ้น VIBHA บวก 3.48% มาอยู่ที่ 2.38 บาท เพิ่มขึ้น 0.08 บาท มูลค่าซื้อขาย 37.24 บาท
หุ้น BCH บวก 3.19% มาอยู่ที่ 19.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท มูลค่าซื้อขาย 654.60 ล้านบาท
หุ้น RJH บวก 2.33% มาอยู่ที่ 33.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท มูลค่าซื้อขาย 26.55 ล้านบาท
บล.เคทีบีเอสที ระบุตัวเลขผู้ติดเชื้อโอมิครอนเช้านี้เพิ่มขึ้น 18,363 คน มีการปรับมาตรการโควิด-19 เป็นระดับ 4 หุ้นโรงพยาบาลจะได้ประโยชน์ (BCH, CHG) ประเมินมาตรการนี้ อาจใช้เพียง 2-3 สัปดาห์ และจะไม่ทำให้เกิดการล็อกดาวน์ ผลกระทบต่อตลาดรวมจึงเป็นแค่ช่วงสั้นๆ
กระทรวงสาธารณสุขประกาศยกระดับเตือนภัยโควิดระดับ 4 ทั่วประเทศ หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อในสัปดาห์ที่ผ่านมา (13-19 ก.พ.65) มียอดสะสมรวม 115,917 ราย โดยพบการติดเชื้อกระจายไปทั่วประเทศแล้วและมีอัตราการติดเชื้อเฉลี่ย 100 คนต่อประชากร 100,000 คน ทั้งนี้แม้สถานการณ์เตียงทั่วประเทศยังเพียงพอที่จะรองรับผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการหนัก (มีอัตราครองเตียง 50% จาก 173,000 เตียง โดยส่วนใหญ่เป็นเตียงสีเขียว) จากแนวโน้มการติดเชื้อที่มีแนวโน้มสูงขึ้น กระทรวงสาธารณสุข (สธ) จึงได้ยกระดับเตือนภัยเป็นระดับ 4 ทั่วประเทศ
ฝ่ายวิจัยมองเป็นลบเล็กน้อยต่อตลาดหุ้นไทย จากแนวโน้มผู้ติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้น และมีความเสี่ยงว่า ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 (ศบค.) อาจจะออกมาตรการคุมเข้มที่มากขึ้น โดยมองว่าจะกระทบบรรยากาศการลงทุนในระยะสั้นเท่านั้น ทั้งนี้เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศที่ระบาดหนักที่เริ่มกลับมาใช้นโยบายเปิดประเทศ จึงมองว่าการประกาศยกระดับเตือนภัยโควิด-19 ระดับ 4 ทั่วประเทศ อาจส่งผลให้ประชาชนมีความระมัดระวังในการออกจากบ้าน และรวมกลุ่มมากขึ้น รวมถึงบริษัทอาจจะกลับมาดำเนินนโยบาย work from home อีกครั้ง
คาดว่ากลุ่มโรงพยาบาล (BCH, CHG, EKH) จะกลับมา outperform จากอัตราการใช้เตียงที่กลับมาอยู่ในระดับสูงขึ้น และหุ้นที่คาดว่าจะ underperform มากสุด ได้แก่ กลุ่ม Healthcare คือ BCH, CHG, EKH, THG ส่วน Medical equipment & Food supplement คือ SMD, MEGA
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ประเมินหุ้นโรงพยาบาลที่เน้นรักษาในประเทศ มีโอกาสจะฟื้นตัวกลับมา หลังผู้ติดเชื้อโอมิครอนกลับมาสูงมาก จากแต่ก่อนคาดว่ากำไรปีนี้จะหดตัวลงมาก เพราะรายได้และกำไรจากโควิด-19 จะลดลง คงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ BCH, CHG, EKH และ RPH
ทั้งนี้ CHG ได้ประโยชน์เมื่อโควิดกลับมาแรง แนวโน้มยังไปได้ดี คาดกำไรสุทธิไตรมาส 4/64 จะเติบโตได้ YoY ส่วนปี 65 กำไรสุทธิจะลดลงจากฐานที่สูงมาก แต่ยังมากกว่าปี 62-63 อย่างไรก็ตาม หากไวรัสกลายพันธุ์โอมิครอนกลับมารุนแรง ก็จะทำให้กำไรปี 65 มีโอกาสจะดีกว่าคาด
แม้ปัจจัยลบคือ ภาครัฐจะชะลอการให้สิทธิ์ผู้ป่วยโรคโควิด-19 รักษาฟรี แต่ก็ไม่ถึงกับยกเลิกทั้งหมด ทางโรงพยาบาลก็ยังจะมีรายได้จากในส่วนนี้อยู่ กำหนดให้ราคาพื้นฐานที่ 4.70 บาท ซึ่งประเมินด้วยวิธี DCF ราคาปิดยังมีส่วนเพิ่มเทียบกับราคาพื้นฐานอีกมาก