หุ้น PTC ปิดเทรดวันแรกที่ 4.42 บาท เหนือจอง 26.29%

HoonSmart.com>>หุ้น PTC ปิดเทรดวันแรกที่ 4.42 บาท เหนือจอง 26.29% โบรกฯมองผลการดำเนินงานในปีนี้จะฟื้นตัวขึ้นจากการระบาดของโควิด-19 ที่ผ่อนคลาย และยังรับประโยชน์จากการเร่งขยายศูนย์บริการน้ำมันของผู้ให้บริการรายต่างๆ โดยคาดบริษัทจะยังรักษาอัตรากำไรในระดับ 43-44% ได้

หุ้น PTC ปิดเทรดวันแรกที่ 4.42 บาท เพิ่มขึ้น 0.92 บาท(+26.29%) มูลค่าซื้อขาย 3,144.37 ล้านบาท โดยเปิดลาดที่ 6.75 บาท ขึ้นสูงสุด 6.85 บาท และต่ำสุด 4.32 บาท

บล.ทิสโก้ ประเมินว่า บริษัท พรีเมียร์ แทงค์ คอร์ปอเรชั่น (PTC) ผลการดำเนินงานในปีนี้ของบริษัทจะฟื้นตัวขึ้นจากการระบาดของโควิด-19 ที่ผ่อนคลาย ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาดำเนินตามปกติส่งผลให้เกิดการเดินทางเพิ่มมากขึ้น และคาดไม่มีการล็อกดาวน์ใหญ่เช่นเดียวกับปีก่อน ทั้งยังรับประโยชน์จากการเร่งขยายศูนย์บริการน้ำมันของผู้ให้บริการรายต่างๆ และคาดบริษัทจะยังรักษาอัตรากำไรในระดับ 43-44% ได้ เนื่องจากผ่านช่วงการลงทุนใหญ่ๆ ไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม สำหรับแนวโน้มระยะยาวของ PTC ยังท้าทาย โดยในอย่างน้อยอีก 5-10 ปี บริษัทอาจมีความเสี่ยงจากกรณีของการใช้รถยนต์ EV ทดแทนรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปมากขึ้นส่งผลให้การใช้น้ำมันลดลงซึ่งจะกดดันรายได้ของบริษัท และแม้บริษัทจะมีความสนใจที่จะขยายการลงทุนไปยังธุรกิจที่เกี่ยวกับพลังงานไฟฟ้าเพื่อลดความเสี่ยงจากการสูญเสียรายได้ แต่มองว่าอาจต้องรอดูความชัดเจนของแผนการลงทุนของบริษัท

PTC ดำเนินธุรกิจโดยการเป็นคลังน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับ รับ เก็บ ผสม และจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงให้แก่สถานีบริการน้ำมันในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีคลังน้ำมัน 2 แห่ง คือคลังน้ำมันเชื้อเพลิงที่จังหวัดขอนแก่น (สามารถรับและจ่ายน้ำมันได้สูงสุดประมาณปีละ 1,400 ล้านลิตร) และคลังน้ำมันเชื้อเพลิงที่จังหวัดศรีสะเกษ (สามารถรับและจ่ายน้ำมันได้สูงสุดประมาณปีละ 830 ล้านลิตร และ 770 ล้านลิตร) และมีลูกค้ารายใหญ่คือ OR (สัดส่วนคิดเป็น 99.77 ของรายได้รวม 9 เดือนปี 64)

รายได้อื่น เช่น ค่าออกบัตรพนักงานขับรถ การคิดค่าปรับพนักงานขับรถในกรณีที่ทำผิดข้อบังคับภายในคลังของบริษัท ค่าเช่าพื้นที่ภายในคลัง ค่าเช่าพื้นที่สำนักงานของบจ. พรีเมียร์ กรีนเพาเวอร์ (เริ่มมีรายได้ในปี 2563) และดอกเบี้ยรับ เป็นต้น

โครงการในอนาคต บริษัทฯมีแผนในการก่อสร้างจุดรับน้ำมันทางรถไฟที่คลังศรีสะเกษเพื่อช่วยลดต้นทุนการขนส่งน้ำมันของลูกค้า และเป็นการเพิ่มช่องทางการขนส่งน้ำมันให้แก่ลูกค้า โดยการลงทุนส่วนนี้จะมีมูลค่าประมาณ 85-90 ล้านบาท และยังมีการสร้างระบบท่อเพื่อใช้ในการสูบรับน้ำมันจากจุดรับน้ำมันทางรถไฟเข้าถังเก็บน้ำมัน ซึ่งจะมีมูลค่าประมาณ 15-20 ล้านบาท