HoonSmart.com>> ดัชนีหุ้นปรับตัวลง ปิดภาคเช้าที่ 1,698.72 จุด ลดลง 4.24 จุด คล้ายตลาดภูมิภาค หลังเงินเฟ้อสหรัฐฯพุ่งแรง 7.5% สูงกว่าคาด วิตกเฟดจะเร่งขึ้นดอกเบี้ย แนวโน้มภาคบ่ายแกว่งตัวในโซน 1,700 ถ้าวันนี้ปิดเหนือ 1,700 จุดได้ถือว่าดี โดยให้แนวรับ 1,690 แนวต้าน 1,710 จุด
ตลาดหุ้นวันที่ 11 ก.พ.2565 ดัชนีปิดภาคเช้าที่ระดับ 1,698.72 จุด ลดลง 4.24 จุด หรือ -0.25% มูลค่าการซื้อขาย 50,837.02 ล้านบาท โดยดัชนีขึ้นไปแตะ 1,703.95 จุด และต่ำสุด 1,690.69 จุด
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นเช้านี้เปิดย่อก่อนที่จะดึงกลับขึ้นได้บ้าง คล้ายคลึงกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย หลังจากที่ตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯออกมาพุ่งแรง 7.5% สูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ 7.3% ทำให้วิตกธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
ตอนนี้มองกันว่าการประชุมเฟดในเดือนมี.ค.มีโอกาสที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.5% ทำให้ตลาดสหรัฐก็ปรับตัวลง ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) สหรัฐฯพุ่งขึ้น 2% ส่งผลให้ตลาดย่อก่อนที่จะดึงกลับขึ้นไปได้บ้าง เนื่องจากตลาดฯได้ตอบรับเรื่องการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดไปพอควรแล้ว และขณะนี้หลายตลาดในเอเชียก็บวกกันได้ด้วย อย่างตลาดหุ้นมาเลเซีย, จีน, ฮ่องกง และสิงคโปร์
สำหรับแนวโน้มภาคบ่าย แกว่งตัวในโซน 1,700 จุด ซึ่งถ้าวันนี้ปิดเหนือ 1,700 จุดได้ถือว่าดี โดยให้แนวรับ 1,690 จุด แนวต้าน 1,710 จุด สัปดาห์หน้าให้ติดตามคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) เปิดเผยรายงานการประชุมเดือนม.ค.ที่ผ่านมา
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
KBANK ปิดที่ 166.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 5,166.46 ล้านบาท
BBL ปิดที่ 147.00 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ -0.68% มูลค่าซื้อขาย 3,141.91 ล้านบาท
SCB ปิดที่ 136.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ +0.74% มูลค่าซื้อขาย 2,469.77 ล้านบาท
KCE ปิดที่ 60.25 บาท ลดลง 1.75 บาท หรือ -2.82% มูลค่าซื้อขาย 1,381.78 ล้านบาท
ADVANC ปิดที่ 232.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท หรือ +1.31% มูลค่าซื้อขาย 1,349.42 ล้านบาท