HoonSmart.com>> “ท่าอากาศยานไทย” เปิดงบไตรมาส 1/65 สิ้นสุดธ.ค.64 ขาดทุน 4,271 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% จากงวดปีก่อน เหตุค่าใช้จ่ายพุ่ง หลังศาลสั่งชำระเงินให้ผู้ฟ้องคดีข้อพิพาทสัญญาจ้างบริหารและจัดการด้านขนส่งสินค้าภายในดิวตี้ฟรี สนามบินสุวรรณภูมิกว่า 990 ล้านบาท ฉุดงบ ด้านรายได้รวมเพิ่มขึ้น 5.30% แตะ 2,885 ล้านบาท
บริษัท ท่าอากาศยานไทย หรือ ทอท. (AOT) เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2565 (ต.ค.-ธ.ค.2564) ขาดทุนสุทธิ 4,271.66 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 0.30 บาท ขาดทุนเพิ่มขึ้น 24% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ขาดทุนสุทธิ 3,441.98 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 0.24 บาท
ในช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2565 ปริมาณการจราจรทางอากาศของท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของทอท.มีจำนวนเที่ยวบินรวม 73,342 เที่ยวบิน ลดลง 29.71% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ 23,316 เที่ยวบิน และเที่ยวบินภายในประเทศ 50,026 เที่ยวบิน ส่วนจำนวนผู้โดยสารรวมมีทั้งหมด 6.91 ล้านคน ลดลง 35.56% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 0.86 ล้านคน และผู้โดยสารภายในประเทศ 6.05 ล้านคน โดยการลดลงส่วนใหญ่มาจากเที่ยวบินและผู้โดยสารภายในประเทศ
ทอท.มีรายได้จากการขายหรือการให้บริการเพิ่มขึ้น 151.05 ล้านบาท หรือ 6.94% จากการเพิ่มขึ้นของรายได้ที่ไม่เกี่ยวกับกิจการการบิน 188.44 ล้านบาท หรือ 14.65% ส่วนใหญ่เกิดจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ส่วนแบ่งผลประโยชน์และรายได้เกี่ยวกับบริการ แต่รายได้เกี่ยวกับกิจการการบินลดลง 37.39 ล้านบาท หรือ 4.20% เนื่องจากการลดลงของจำนวนเที่ยวบินและจำนวนผู้โดยสาร รายได้อื่นลดลง 5.81 ล้านบาท หรือ 1.03% ส่งผลให้รายได้รวมมีจำนวน 2,885.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.30%
ค่าใช้จ่ายรวมเพิ่มขึ้น 1,152.62 ล้านบาท หรือ 18.04% จาก 6,387.53 ล้านบาท เป็น 7,540.15 ล้านบาท ส่วนใหญ่เกิดจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายอื่นๆ จำนวน 990.30 ล้านบาท สาเหตุหลักเกิดจากค่าใช้จ่ายประมาณการหนี้สินคดีความ เนืองจากศาลปกครองกลางพิพากษาให้ทอท.ชำระเงินให้แก่ผู้ฟ้องคดีในประเด็นข้อพิพาทสัญญาจ้างบริหารและจัดการด้านขนส่งสินค้าภายในเขตปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายเพิ่มขึ้น 142.06 ล้านบาท ในขณะที่ต้นทุนทางการเงินลดลง 9.60 ล้านบาท หรือ 1.28%
ผลการดำเนินงานของ ทอท.ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตั้งแต่ต้นปี 2563 และมีการแพร่ระบาดอย่างรุนแรงในปี 2564 และแม้ว่าไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2565 จะเป็นช่วงฤดูท่องเที่ยวและได้เปิดประเทศในช่วงเวลาหนึ่งแล้วนั้น แต่ปริมาณเที่ยวบินและจำนวนผู้โดยสารยังมีไม่มาก อย่างไรก็ตาม สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ คาดการณ์ว่า จำนวนผู้โดยสารทางอากาศโดยรวมทั่วโลกในปีงบประมาณ 2565 จะยังคงต่ำกว่าปี 2562 และจะยังคงไม่ฟื้นคืนเท่าระดับปกติจนถึงปี 2566
จากปริมาณเที่ยวบินและจำนวนผู้โดยสารที่ยังไม่กลับมาสู่ภาวะปกติ จึงเป็นสาเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้แผนการเปิดใช้งานอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1(SAT-1) ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิต้องเลื่อนออกไป อย่างไรก็ตาม AOT ได้เตรียมความพร้อมและปรับแผนการเปิดใช้งานอาคาร SAT-1 ให้เร็วขึ้น ในกรณีที่มีแนวโน้มว่าปริมาณเที่ยวบินและจำนวนผู้โดยสารจะกลับมาเพิ่มมากขึ้นกว่าที่คาดการณ์ไว้ ทั้งนี้ต้องวิเคราะห์ความคุ้มค่าในการดำเนินการดังกล่าว