ASPS ชี้ 4 เหตุผลหนุน “ฟันด์โฟลว์” ไหลเข้าต่อ ลุ้น MSCI เพิ่มน้ำหนักปีนี้

HoonSmart.com>> “บล.เอเซีย พลัส” ประเมิน 4 เหตุผล Fund Flow ต่างชาติแนวโน้มไหลเข้าตลาดหุ้นไทยต่อในปี 65 หลังวานนี้ทะลักวันเดียว 1.7 หมื่นล้านบาท ชี้ต่างชาติยังถือครองหุ้นไทยระดับต่ำ 21% จากอดีตถือสูงถึง 29% มีลุ้น MSCI เพิ่มน้ำหนักหุ้นไทยปีนี้ ด้านหุ้นในตลาดเป็นหุ้น Value เป้าหมายต่างชาติ ทั้งมีสัดส่วนหุ้นโภคภัณฑ์สูง ฟื้นตัวตามเศรษฐกิจ กำไรบจ.โดดเด่น

บริษํทหลักทรัพย์เอเซีย พลัส (ASPS) เผยวานนี้ (9 ก.พ.2565) ต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทย 1.7 หมื่นล้านบาท สูงสุดเป็นอันดับ 3 ในรอบ 30 ปี หรือ ตั้งแต่ทางตลาดหลักทรัพย์เปิดเผยข้อมูล หนุนให้ยอดซื้อสุทธิหุ้นไทย นับตั้งแต่ต้นปี 2565 ถึงปัจจุบัน ขึ้นมาอยู่ที่ 4.37 หมื่นล้านบาท สูงสุดในภูมิภาค

ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินว่ามี 4 เหตุผลที่ Fund Flow ต่างชาติยังมีแนวโน้มไหลเข้าตลาดหุ้นไทยต่อในปี 2565 ดังนี้

1. ต่างชาติยังถือครองหุ้นไทยอยู่ในระดับต่ำ และ MSCI มีโอกาสเพิ่มน้ำหนักหุ้นไทยในปี 2565 นี้ โดยปัจจุบันต่างชาติถือครองหุ้นไทยทางตรงเพียง 21% ยังต่ำกว่าในอดีตที่เคยอยู่ที่ระดับสูงถึง 29% ในปี 2556 ดังนั้นยังมีช่องว่างให้ Fund Flow ไหลเข้า รวมถึง Downside ในการขายค่อนข้างจำกัด อีกทั้ง MSCI มีโอกาสเพิ่มน้ำหนักหุ้นไทยในปี 2565 นี้ เนื่องจากตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นมาแล้วกว่า 7% สูงกว่าตลาดหุ้นพัฒนาแล้วที่ขึ้นมา 1% (นับตั้งแต่ MSCI Rebalance ในรอบที่แล้ว คือ 1 ธ.ค. – 9 ก.พ. 65) หนุนสัดส่วน Market Cap. Weight ที่ MSCI ใช้ในการคำนวณดัชนีเพิ่มขึ้น

2. โครงสร้างตลาดหุ้นไทยเป็นลักษณะหุ้น Value ที่นักลงทุนต่างชาติให้ความสนใจในตอนนี้ โดยตลาดหุ้นไทยมีสัดส่วนหุ้น Commodity และหุ้นฟื้นตัวตามเศรษฐกิจในประเทศราว 2 ใน 3 ของมูลค่าตลาด

3. การฟื้นตัวของเศรษฐกิจและกำไรบริษัทจดทะเบียนไทยที่โดดเด่นกว่าประเทศพัฒนาแล้ว โดยแนวโน้มเศรษฐกิจไทยยังมีช่องว่างในการฟื้นไปเท่ากับช่วงก่อนเกิด COVID-19 ราว 5% หนุนกำไรบริษัทจดทะเบียนมีโอกาสเติบโต 11% สูงกว่าตลาดหุ้นพัฒนาแล้วเติบโตราว 6%

4. สภาพคล่องส่วนเกินยังคอยหล่อเลี้ยงหุ้นไทยในปี 2565 นี้ เนื่องจาก กนง. ยังมีโอกาสคงดอกเบี้ยนโยบายไทยต่อไปถึงสิ้นปี 2565 ช่วยหนุนให้สภาพคล่องส่วนเกินยังมีโอกาสไหลเข้าตลาดหุ้น แตกต่างกับทางสหรัฐที่สภาพคล่องส่วนเกินที่เคยหนุนตลาดหุ้นจะทยอยลดลง เนื่องจากมีโอกาสเห็นการขึ้นดอกเบี้ย 4 – 5 ครั้งในปีนี้

นอกจากนี้นักลงทุนต่างชาติจะมีส่วนสำคัญในการชี้นำตลาดหุ้นไทยมากขึ้น สะท้อนได้จากสัดส่วนการซื้อขายเฉลี่ยหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติในปี 2565ytd นี้อยู่ที่ 42.3% พลิกกลับมาสูงสุดเมื่อเทียบกับนักลงทุนรายอื่นๆ และยังสูงสุดเมื่อเทียบกับสัดส่วนการซื้อขายในอดีตมาก ในทางตรงกันข้ามภาพของการซื้อขายของนักลงทุนสถาบันฯ ในประเทศ ถือว่ามีน้ำหนักต่อตลาดน้อยลงทั้งในปี 2564 และต่อเนื่องมาในปี 2565 นี้ เนื่องจากเหลือสัดส่วนการซื้อขายเพียง 7.0% และ 8.0% ตามลำดับ แตกต่างกับในอดีตที่สูงกว่า 10%

อย่างไรก็ตามแรงซื้อต่างชาติที่เข้ามาโดดเด่นต่อเนื่อง หนุน SET Index Outperform เป็นพิเศษ โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกันมา 8 วันทำการ กว่า 3.1% หรือ 50 จุด จาก 1634 จุด ขึ้นมาอยู่ที่ 1684 จุด แต่เมื่อเทียบกับสถิติในอดีตย้อนหลัง 10 ปี พบว่า SET จะบวกได้ติดต่อกันตั้งแต่ 8 วัน ขึ้นไป มีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมากเพียง 0.7% เท่านั้น และถ้าจะบวกต่อไปจนถึง 12 วัน ในอดีตมีโอกาสให้ผลตอบแทนในช่วง -0.7% ถึง +1.2%

กลยุทธ์แนะนำหุ้นใหญ่พื้นฐานดีราคา Laggard เกาะกระแส Fund Flow อย่าง BH, MAKRO และ TOP เป็น Toppick