ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 305 จุด กลุ่มเทคโนโลยีบวก รอเงินเฟ้อ

HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดบวก ดัชนีดาวโจนส์พุ่ง 305 จุด แรงหนุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้น หลังบอนด์ยีลด์อ่อนตัวลง นักลงทุนขานรับผลดำเนินงานบริษัทจดทะเบียน ระหว่างรอเงินเฟ้อ ด้านราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่บวก

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 ปิดที่ 35,768.06 จุด เพิ่มขึ้น 305.28 จุด หรือ 0.86% จากการปรับขึ้นของกลุ่มเทคโนโลยี หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีอ่อนตัวลงจากระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2019 ขณะที่นักลงทุนยังขานรับผลการดำเนินงานที่บริษัทจดทะเบียนทยอยรายงาน

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 4,587.18 จุด เพิ่มขึ้น 65.64 จุด, +1.45%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,490.37 จุด เพิ่มขึ้น 295.92 จุด, +2.08%

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีอ่อนตัวลงมาที่ 1.945% หลังแตะ 1.97% เมื่อวันอังคาร

บริษัทที่ได้ประโยชน์จากการล็อกดาวน์ในช่วงโควิด-19 ระบาดอย่างหนักในปี 2021 โดยในกลุ่มธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ หุ้นShopify เพิ่มขึ้นกว่า 5% หุ้น Etsy เพิ่มขึ้น 3.8% ส่วนหุ้นZoom Video เพิ่มขึ้น 4.8% หุ้นเมตาแพล็ตฟอร์มสเพิ่มขึ้น 5.4% หุ้นอัลฟาเบท เพิ่มขึ้น 1.6% ห้นแอปเปิล เพิ่มขึ้น 0.8% หุ้นไมโครซอฟท์ เพิ่มขึ้น 2.2% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ เพิ่มขึ้น 2.3% หุ้น Nvidia เพิ่มขึ้น 6.4%

นักวิเคราะห์จาก JPMorgan Asset Management กล่าวว่า นักลงทุนให้ความสนใจกับผลการดำเนินงาน เพราะคาดว่าเมื่อเข้าสู่ปี 2022 กำไรเบื้องต้นน่าจะหดตัวจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว จึงเป็นสาเหตุที่กังวลต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ยและเงินเฟ้อที่สูงขึ้น รวมทั้งการดำเนินนโยบายในปีนี้

ผลประกอบการที่ดีกว่าคาดส่งผลให้หุ้น Chipotle Mexican Grill ธุรกิจอาหารเพิ่มขึ้นกว่า 10% และหุ้น Lyft ธุรกิจ Ride-sharing เพิ่มขึ้น 6.8%

นักวิเคราะห์จาก MissionSquare Retirement กล่าวว่า มีหลายปัจจัยที่มีผลต่อตลาด ทั้งการซื้อขายระยะสั้น ในกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการล็อกดาวน์ซึ่งร่วงลงในไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ขณะที่นักลงทุนที่ลงทุนด้วยปัจจัยพื้นฐานสนใจซื้อหุ้นที่จะได้รับประโยชน์จากเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ส่วนนักลงทุนกลุ่มที่คลายกังวลเกี่ยวกับการระบาดมากขึ้นได้เข้าซื้อหุุ้นกลุ่มเดินทาง

หุ้นนอร์วิเจียน ครูซไลน์ โฮลดิ้งส์เพิ่มขึ้น 4.3% หุ้นเดลตาแอร์ไลน์เพิ่มขึ้น 3%

อย่างไรก็ตามความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อและการประชุมของธนาคารกลาง(เฟด)ยังคงเป็นปัจจัยหลัก และนักลงทุนรอการรายงานข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมกราคมในวันนี้ ซึ่งจะสะท้อนภาพเงินเฟ้อ โดยนักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนี CPI จะเพิ่มขึ้น 7.2% จากระยะเดียวกันของปีก่อนและเพิ่มขึ้น 0.4% จากเดือนก่อนหน้า

นายราฟาเอล บอสติก ประธานธนาคารกลาง(เฟด)สาขาแอตแลนตาให้สัมภาษณ์สำนักข่าวซีเอ็นบีซีว่า มีความเป็นไปที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ แต่เฟดไม่ได้ยึดติดกับแนวนโยบายการเงินใด และจะประเมินจากการตอบสนองของเศรษฐกิจ

ด้านนางลอเร็ตต้า เมสเตอร์ประธานเฟดสาขาคลีฟแลนด์กล่าวในงานเสวนาว่า เฟดพร้อมที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมแต่ละครั้ง รวมทั้งจะประเมินเงื่อนไข สภาวะเศรษฐกิจ ความเสี่ยง และจะถอนมาตรการกระตุ้น

ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น นำโดยกลุ่มยานยนต์ที่บวก 4% ท่ามกลางการรายงานผลการดำเนินงาน ขณะที่นักลงทุนรอข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐฯในวันนี้

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 473.33 จุด เพิ่มขึ้น 7.99 จุด, +1.72%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ ที่ 7,643.42 จุด เพิ่มขึ้น 76.35 จุด, +1.01%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,130.88 จุด เพิ่มขึ้น 102.47 จุด, +1.46%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,482.01 จุด เพิ่มขึ้น 239.63 จุด, +1.57%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้น 30 เซนต์ ปิดที่ 89.66 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 77 เซนต์ ปิดที่ 91.55 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล