ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 371 จุด สลับกลุ่มลงทุนรอตัวเลขเงินเฟ้อ

HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก ดาวโจนส์พุ่ง 371 จุด นักลงทุนสลับกลุ่มลงทุนรอตัวเลขเงินเฟ้อพรุ่งนี้ ด้านบอนด์ยีลด์ปรับเพิ่มขึ้นหนุนกลุ่มแบงก์ ราคาน้ำมันดิบลดลง ด้านตลาดหุ้นยุโรปมีทั้งบวกและลบ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565 ปิดที่ 35,462.78 จุด เพิ่มขึ้น 371.65 จุด หรือ 1.06% นักลงทุนยังเกาะติดการรายงานผลประกอบการและรอข้อมูลเงินเฟ้อในสัปดาห์นี้ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับเพิ่มขึ้นเป็นแรงหนุนกลุ่มธนาคาร

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 4,521.54 จุด เพิ่มขึ้น 37.67 จุด, +0.84%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,194.45 จุด เพิ่มขึ้น 178.79 จุด, +1.28%

ผลการดำเนินงานเป็นแรงส่งให้ตลาดปรับตัวขึ้นโดยฮาร์เลย์-เดวิดสันเพิ่มขึ้นกว่า 15% จากกำไรที่ดีกว่าคาดในไตรมาสสี่ หุ้น Amgen เพิ่มขึ้น 7.8% และหุ้น เพิ่มขึ้นเกือบ 16% จากผลการดำเนินงานเช่นกัน

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้นมาที่ระดับ 1.965% สูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2019 ส่งผลให้หุ้นอเมริกันเอ็กซเพรสเพิ่มขึ้น 3.3% และหุ้นเจพีมอร์แกนเพิ่มขึ้น 1.9% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกาเพิ่มขึ้น 1.8% หุ้นซิตี้กรุ๊ป เพิ่มขึ้น 1.2% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ เพิ่มขึ้น 1.1% เป็นแรงหนุนดัชนีดาวโจนส์

นักวิเคราะห์จาก Oanda ระบุว่า นักลงทุนสลับกลุ่มเข้ามาซื้อในกลุ่มวัสดุ เทคโนโลยี และกลุ่มการเงิน ตลาดกำลังปรับตัวกับการแจ้งผลการดำเนินงานและนักลงทุนเตรียมรับรายงานเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้น และจะเห็นการสลับกลุ่มลงทุนไปแบบนี้ต่อเนื่อง

ตลาดกำลังจับตาว่าธนาคารกลาง(เฟด)จะตอบสนองต่อแรงกดดันด้านราคาอย่างไร ขณะที่นักลงทุนรอข้อมูลเงินเฟ้อเดือนมกราคมที่จะเผยแพร่ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์นี้ นักวิเคราะห์คาดว่าเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้น 0.4% จากเดือนก่อนหน้าและเพิ่มขึ้น 7.2% จากระยะเดียวกันของปีก่อน ซึ่งจะสูงสุดในรอบ 40 ปี

หุ้นไฟเซอร์ลดลง 2.8% จากรายได้ไตรมาสสี่ต่ำกว่าคาด และการคาดการณ์ผลการดำเนินงานทั้งปีก็ไม่สดใส

ณ วันอังคารมีบริษัทใน S&P 500 รายงานผลการดำเนินงานแล้ว 300 บริษัทซึ่ง 77% มีกำไรดีกว่าคาดและ 75% มีรายได้ดีกว่าคาด

หุ้นกลุ่มพลังงานลดลง หลังราคาน้ำมันดิบ WTI หลุดจากระดับ 90 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้

เนื่องจากการเจรจานิวเคลียร์อิหร่านมีสัญญาณความคืบหน้า โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ลดลง 2.6% หุ้นเชฟรอน ลดลง 1.5%

กระทรวงพาณิชย์ รายงานว่า สหรัฐฯขาดดุลการค้าเดือนธันวาคมจำนวน 80.7 พันล้านดอลลาร์เพิ่มขึ้น 1.8% แต่ต่ำกว่า 83 พันล้านดอลลาร์ ที่นักวิเคราะห์คาด จากการนำเข้าเพิ่มขึ้น 1.6% มีมูลค่า 308.9 พันล้านดอลลาร์ การส่งออกเพิ่มขึ้น 1.5% มูลค่า 228.1 พันล้านดอลลาร์

ตลาดหุ้นยุโรปมีทั้งบวกและลบ โดยกลุ่มทรัพยากรพื้นฐานบวก 2.2% แต่กลุ่มเทคโนโลยีลดลง 0.9% ที่นักลงทุนเกาะติดการรายงานผลการดำเนินงานและรอข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐฯในสัปดาห์นี้

หุ้นBP ลดลงกว่า 2% แม้กำไรเพิ่มขึ้นมากสูงสุดในรอบ 8 ปีจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่สูงขึ้น

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 465.34 จุด เพิ่มขึ้น 0.06 จุด, +0.01%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,567.07 จุด ลดลง 6.40 จุด, -0.09%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,028.41 จุด เพิ่มขึ้น 19.16 จุด, +0.27%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,242.38 จุด เพิ่มขึ้น 35.74 จุด, +0.24%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนมีนาคม ลดลง 1.96 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 89.36 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนเมษายนลดลง 1.91 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 90.78 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล