ดาวโจนส์ปิดบวก 1 จุด รอข้อมูลเงินเฟ้อ

HoonSmart.com>> ดาวโจนส์ปิดบวก 1 จุด รอเงินเฟ้อสัปดาห์นี้ เพื่อประเมินทิศทางนโยบายการเงินของเฟด ขายหุ้นเทคโนโลยีฉุดดัชนี Nasdaq ปรับตัวลดลง ราคาน้ำมันดิบร่วง ด้านตลาดหุ้นยุโรปเพิ่มขึ้น

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2565 ปิดที่ 35,091.13 จุด เพิ่มขึ้น 1.39 จุด หรือ 0.004% นักลงทุนขานรับการรายงานผลการดำเนินงาน ขณะที่รอข้อมูลเงินเฟ้อในสัปดาห์นี้ เพื่อประเมินเส้นทางการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลาง (เฟด)

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 4,483.87 จุด ลดลง 16.66 จุด, -0.37%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,015.67 จุด ลดลง 82.34 จุด, -0.58%

การซื้อขายผันผวนจากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน หุ้นไทสันฟู้ดส์เพิ่มขึ้นกว่า 12% จากผลการดำเนินงานดีกว่าคาด ส่วนหุ้น Zimmer ผู้ผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ลดลง 9% หลังรายงานผลการดำเนินงาน

หุ้นเมตา แพล็ตฟอร์มสยังคงลดกว่า 5% ส่งผลให้ร่วงลง 30% หลังรายงานผลการดำเนินงานในวันพุธที่แล้ว

ขณะนี้ 56% ของบริษัทใน S&P 500 แจ้งผลการดำเนินงานแล้ว โดยที่ 77% ของจำนวนนี้มีผลการดำเนินงานดีกว่าคาด และในสัปดาห์จะมีอีก 70 บริษัทรายงานผลการดำเนินงาน

นักลงทุนจับตาการรายงานข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค(Consumer Price Index:CPI)เดือนมกราคม ในสัปดาห์นี้ ที่มีกำหนดเผยแพร่ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ซึ่งจะเป็นปัจจัยหลักหนึ่งที่นำมาประเมินการดำเนินนโยบายการเงินของเฟดในการควบคุมเงินเฟ้อ

นักวิเคราะห์คาดว่าเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้น 7.2% จากระยะเดียวกันของปีก่อน ซึ่งหากเป็นตามที่คาดก็จะสูงสุดนับตั้งแต่ เดือนกุมภาพันธ์ปี 1982 และยิ่งแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวมากพอและร้อนแรง ที่จะทำให้เฟดดำเนินนโยบายการเงินเข้มงวดได้

นักวิเคราะห์จากโกลด์แมนแซคส์ระบุในบทวิเคราะห์ว่า นักลงทุนจับตาตัวเลข CPI ในสัปดาห์นี้ แม้จะกลับมาซื้อแต่ก็เลี่ยงการถือครองหุ้นยาว

นักวิเคราะห์จาก เวลลส์ ฟาร์โก ระบุในบทวิเคราะห์ว่า หลังจากข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่แข็งแกร่งในการรายงานสัปดาห์ก่อน สัปดาห์นี้นักลงทุนจับตาตัวเลข CPI เพราะจะเป็นข้อมูลเชิงลึกของเงินเฟ้อให้ทั้งผู้ดำเนินนโยบายและนักลงทุนท่ามกลางแรงกดดันเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น และขณะเดียวกันก็สนับสนุนการคาดการณ์นโยบายการเงินที่เข้มงวดตั้งแต่เดือนมีนาคม

“เงินเฟ้อคาดการณ์ที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะระยะยาว จะเพิ่มแรงกดดันให้เฟดดำเนินการในเดือนมีนาคมและมีความไม่แน่นอนแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ย”
ตลาดคาดว่าเฟดขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นราว 0.50% ในเดือนมีนาคม

ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น นำโดยกลุ่มเดินทางและสันทนาการที่เพิ่มขึ้น 3.1% และกลุ่มเหมืองแร่ ท่ามกลางการรายงานผลการดำเนินงาน ขณะที่นักลงทุนยังประเมินข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯและความเห็นของธนาคารกลางในยุโรป และจับตาสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครน

นายมาร์ติน คาซัคส์ สมาชิกคณะกรรมการธนาคารกลางสหภาพยุโรป(ECB) ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวรอยเตอร์ว่า แม้จะยุติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเร็วกว่าที่วางแผนไว้ แต่ไม่มีความเป็นไปได้ที่จะขึ้นดอกเบี้ยเร็ว ตั้งแต่เดือนกรกกฎาคมตามที่ตลาดคาด

ผลผลิตอุตสาหกรรมเยอรมนีเดือนธันวาคมลดลง 0.3% จากเดือนก่อนหน้า สวนทางกับการการคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.4%

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 465.28 จุด เพิ่มขึ้น 3.13 จุด, +0.68%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,573.47 จุด เพิ่มขึ้น 57.07 จุด, +0.76%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,009.25 จุด เพิ่มขึ้น 57.87 จุด, +0.83%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,206.64 จุด เพิ่มขึ้น 107.08 จุด, +0.71%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนมีนาคม ลดลง 99 เซนต์ ปิดที่ 91.32 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนเมษายนลดลง 58 เซนต์ ปิดที่ 92.69 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล