“คิงส์ฟอร์ด” วางแนวรับ 1,660 จุด แนะ BCP-CK

HoonSmart.com>> บล.คิงส์ฟอร์ด วางแนวรับดัชนี 1,660 จุด หลังตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วง ขายกลุ่มเทคโนโลยีหนัก Facebook กำไรต่ำกว่าคาด ด้าน BOE- ECB ส่งสัญญาณตึงตัวมากขึ้นจากการปรับตัวขึ้นของเงินเฟ้อ หุ้นแนะนำวันนี้ BCP-CK

บริษัทหลักทรัพย์คิงส์ฟอร์ด วางแนว Filter แนวรับ SET ที่ 1,660 จุด ยืนได้ถือพอร์ต โดยมีแนวต้าน 1,675 – 1,680 จุด แนะนำขายทำกำไรบริเวณแนวต้าน ระยะสั้นเก็งกำไร TU, VGI, BEC, BJC, WHA ( +สัญญาณบวกโมเมนตัมทางเทคนิค )

ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปรับลดลงหลัง Facebook รายงานกำไรต่ำกว่าคาดการณ์ จากยอดผู้ใช้งานรายวันลดลง หลังใช้ Apple เปลี่ยนนโยบายความเป็นส่วนตัว ซึ่งผู้ใช้งานต้องยินยอมให้แอฟฟิเคชั่นติดตามข้อมูลผู้ใช้งาน ส่งผลกระทบต่อรายได้ของ Facebook ส่วน Amazon -7% หลังรายงานกำไรต่ำกว่าคาด หุ้นกลุ่ม Growth, เทคโนโลยีถูกกดดันจาก US Bond Yield 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 1.834%

ขณะที่ ISM, Markit PMI ภาคบริการสหรัฐ ม.ค. ชะลอตัวลงจากผลกระทบระบาด Omicron

ค่ำวันนี้ติดตามตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ ม.ค. คาดเพิ่มขึ้น 178,000 ราย &ธ.ค. เพิ่มขึ้น 199,000 ราย เป็นดัชนีใช้วัดภาวะตลาดแรงงานสหรัฐ ส่วนตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 ถูกแรงขายจากกลุ่มเทคโนโลยีเช่นกัน ขณะที่ BOE ปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% อยู่ที่ 0.50% หลังเงินเฟ้ออังกฤษสูงสุดในรอบ 30 ปี และแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อ เม.ย. คาด 7.25% จากเดิมคาด 6 % จากการปรับขึ้นเพดานค่าไฟฟ้า +5.4%

ส่วน ECB แม้ว่าจะคงดอกเบี้ยรีไฟแนนท์ที่ 0% และยุติโครงการ PEPP วงเงิน 1.85 ล้านล้านยูโร ใน มี.ค. แต่ส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ย หลังCPI ยูโรโซน ม.ค. เพิ่มขึ้น +5.1% &คาด +4.4% YoY สะท้อนเงินเฟ้ออาจอยู่ระดับสูงนานกว่าคาด ส่วนผลกระทบต่อตลาดหุ้นเอเชียเข้านี้คาดไม่มาก หลัง Nasdaq Futures เช้านี้ฟื้นตัว +1.90%

สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้ BCP (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 32.00 บาท) ปัจจัยหนุนมาจากค่าการกลั่นที่ฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่องตามความต้องการใช้น้ำมันสำเร็จรูปในช่วงฤดูหนาว ขณะที่ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นจากภาวะอุปทานตึงตัว ส่งผลบวกต่อการรับรู้กำไรจากสต๊อกน้ำมัน รวมถึงธุรกิจ E&P ในยุโรป โดยผลประโยชน์ดังกล่าวเพียงพอที่จะช่วยชดเชยธุรกิจการตลาดที่ถูกกระทบจากการตรึงราคาน้ำมันดีเซลหน้าสถานีบริการ และรายได้จากธุรกิจไฟฟ้าที่ลดลงตามปัจจัยฤดูกาล ส่วนเรื่องการ Spinoff BBGI เข้าตลาดคาดดำเนินการได้ในช่วงครึ่งแรกของปี 65 โดยมี Pre-emptive right อัตราส่วน 20.8939:1 ขึ้น XB 11 ก.พ.นี้

หุ้น CK (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 25.50 บาท) แม้คาดงวด 4Q64 จะมีโอกาสกำไรลดลงสู่ราว 42.10 ล้านบาท (-84.89%QoQ,) จากในงวด 3Q64 มีเงินปันผล TTW เข้ามา อย่างไรก็ตามคาดแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง งานในมือและงานประมูลใหม่รออยู่จำนวนมาก ล่าสุดได้สัญญา รฟฟ.สายสีม่วงใต้ร่วมกับ STEC สองสัญญา ดัน Backlog สูงสู่ระดับ 6.47 หมื่นล้านบาท โดยตลอดทั้งปีนี้ บล.คิงส์ฟอร์ดคาดได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวเศรษฐกิจโครงการ Infrastructure ที่มาก คาดปี 65 กำไรสู่ 1,400.18 ล้านบาท (+63.67%YoY) และ Dividend Yield อาจฟื้นตัวสู่ 1.98%