หุ้นเช้านี้ลบ 1.54 จุด ผู้ติดเชื้อโควิดในปท.พุ่ง-แนสแด็กฟิวเจอร์สร่วง

HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นเช้านี้ลบ 1.54 จุด หลังผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศพุ่งกว่า 9 พันราย กดดันกลุ่มเปิดเมือง แต่อาจมีเรงเก็งกลุ่มโรงพยาบาล, งบฯ Facebook ออกมาไม่ดี ส่งแนสแด็กฟิวเจอร์สร่วงแรง กดดันกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์, ต่างชาติเริ่มขายทำกำไรออกมา, ตึงเครียดสถานการณ์ในยูเครนมากขึ้น, น้ำมันฟิวเจอร์สเจอ Sell on fact หลังผลประชุมกลุ่มโอเปกตามคาด โดยให้แนวรับ 1,660-1,656 แนวต้าน 1,672-1,680 จุด

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์วันที่ 3 ก.พ.2565 ย่อตัวลง ณ เวลา 9.56 น. อยู่ที่ระดับ 1,666.21 จุด ลดลง 1.54 จุด หรือ -0.09% มูลค่าซื้อขาย 1,559.31 ล้านบาท

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นเช้านี้ปรับตัวลง หลังจากที่จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด—19 ในไทยพุ่งขึ้นมา 9 พันกว่าราย สูงสุดในรอบ 3 เดือนกว่า ทำให้หุ้นในกลุ่มเปิดเมือง (Reopening) อาจจะถูกขายออกมา ไม่ว่าจะเป็น AOT, หุ้นในกลุ่มโรงแรม, หุ้นในกลุ่มค้าปลีก แต่อาจมีแรงเก็งกำไรหุ้นในกลุ่มโรงพยาบาล อย่างหุ้น CHG, BCH เป็นต้น

นอกจากนี้ ผลการดำเนินงานของเฟสบุ๊ค(Facebook) ออกมาไม่ดี ต่ำกว่าที่ตลาดคาด ทำให้ราคาหุ้น Facebook ในตลาดแนสแด็กฟิวเจอร์สร่วงไป 22% กดดันดัชนี Nasdaq ในตลาดฟิวเจอร์สให้ปรับตัวลงไป 2.3% คาดว่าจะกดดันหุ้นในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ อีกทั้งนักลงทุนต่างชาติเริ่มขายทำกำไรออกมา รวมถึงเกิดความตึงเครียดมากขึ้นจากสถานการณ์ในยูเครน หลังสหรัฐฯส่งทหารเข้าไปยุโรปตะวันออกท่ามกลางวิกฤตยูเครน ซึ่งทางยูเครนก็ออกมาบอกว่า ถ้ารัสเซียโจมตียูเครนก็จะต่อสู้ ทำให้วิตกจะลามไปยังประเทศอื่น ๆ ด้วย

สำหรับผลประชุมกลุ่มโอเปกพลัสออกมาตามคาด ได้เพิ่มกำลังการผลิตเป็น 4 แสนบาร์เรลต่อวัน ทำให้เกิด Sell on fact น้ำมันในตลาดฟิวเจอร์สออกมา พร้อมให้แนวรับ 1,660-1,656 จุด ส่วนแนวต้าน 1,672-1,680 จุด

5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
CPALL อยู่ที่ 62.75 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 109.93 ล้านบาท
KBANK อยู่ที่ 150.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 84.03 ล้านบาท
AOT อยู่ที่ 63.50 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ -0.78% มูลค่าซื้อขาย 53.66 ล้านบาท
KTC อยู่ที่ 64.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ +079% มูลค่าซื้อขาย 48.79 ล้านบาท
DELTA อยู่ที่ 389.00 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ -0.26% มูลค่าซื้อขาย 41.03 ล้านบาท