โดย…ณัฏฐะ มหัทธนา
ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนและลูกค้าสัมพันธ์ บลจ.กรุงไทย (KTAM)
ผลประชุมเฟดครั้งแรกของปี 2022 ตลาดตีความว่า hawkish เข้มงวดกว่าเดิมแม้ยังไม่มี action ท่านประธานแถลงข่าวมิได้ให้รายละเอียดอะไรมากไปกว่าช่วงเวลาจบ QE – เริ่มขึ้นดอกเบี้ย แทบจะแน่นอนว่า มีนาคม จากนั้นเข้าสู่โหมด QT …ข้อมูลพวกนี้ตลาดรู้อยู่แล้ว… สัญญาณใหม่ที่ Powell ให้แก่นักลงทุนคือ “ความยืดหยุ่น” โดยความสูงของขั้นบันไดไม่ยึดติดกับตัวเลข 25 bps นักวิเคราะห์บางรายตีความว่าอาจปรับครั้งละครึ่งเปอร์เซ็นต์ก็ได้ ส่วนเรื่อง “ความถี่” ก็ยังเปิดกว้างสำหรับโอกาสที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมทุกครั้ง
เฟด “ไม่ชัดเจน” ปล่อยตลาดคาดเดาเส้นทางดอกเบี้ยเอาเอง แบงก์ใหญ่อัพเกรดประมาณการ “จำนวนครั้ง” ที่ fed funds target จะถูกปรับขึ้นในปี 2022 กันถ้วนหน้า Goldman มอง 5 (เดิม 4) เท่ากับ JPMorgan ส่วน Bank of America “มาดุ” คาดว่าเฟดจะขยับดอกเบี้ยนโยบายครั้งละ 0.25% ทุกการประชุมที่เหลือในปีนี้นับได้ 7 ครั้ง
FedWatch Tool ชี้ประชุม FOMC ครั้งหน้า 15-16 มี.ค. “ขึ้นแน่” อย่างน้อย 25 bps แถมมีความเป็นไปได้เกือบ 1 ใน 8 ที่เฟดจะปรับดอกเบี้ยอย่างรุนแรงถึงขั้นละ 50 bps ขณะสะท้อนโอกาสปีนี้เฟดขึ้นดอกเบี้ยรวมทั้งสิ้น 4-5 ครั้ง (ความน่าจะเป็น: 4 ครั้งขึ้นไป 60.5% และ 5 ครั้งขึ้นไป 27.7%) แปลว่า “ขั้นละครึ่งเปอร์เซ็นต์” และ “ขึ้นทุก meeting” ยังดูเหมือนมากไปในสายตาของบรรดาเทรดเดอร์
สถานการณ์ รัสเซีย-ยูเครน ระอุ “ปูติน” ไม่ล้มโต๊ะแต่เจรจากับสหรัฐและพันธมิตรนาโตไม่ค่อยคืบหน้า ต่างฝ่ายยังคงเสริมกำลังทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์เข้าพื้นที่อย่างต่อเนื่อง หนุนราคาน้ำมันดิบทะยานสูงสุดในรอบกว่า 7 ปี
ปัจจัยด้านนโยบายการเงินและภูมิรัฐศาสตร์กดดันบรรยากาศลงทุน ฉุดหุ้นโลกร่วงระนาวในสัปดาห์เผยผลประกอบการ big tech แม้ส่วนใหญ่เปิดงบ Q4 ดีกว่าคาด (เช่นเคย) แต่มิอาจหยุดยั้งความร้อนแรงของ “ดัชนีความกลัว” VIX ที่พุ่งทะลุจุดสูงสุดในรอบปีเกือบแตะ 39 เมื่อวันจันทร์ ก่อนสงบลงได้ท้ายสัปดาห์ด้วยอานุภาพ earnings สุดปังของบริษัท market cap ใหญ่อันดับหนึ่งอย่าง Apple
“หุ้นเลอค่า ราคาแบกะดิน” ตลาดสหรัฐเริ่มต้นปีใหม่ได้แย่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ ดัชนี S&P 500 ตั้งแต่ต้นปีถึงพฤหัสฯ -9.22% ก่อนรีบาวด์วันศุกร์ +2.43% ลดช่วงลบ YTD เหลือ -7.01% แถมรอดพ้นการ “ปรับฐาน” (correction ปรับตัวลงเกิน -10%) ได้อย่างหวุดหวิดโดยราคาปิดวันพฤหัสฯ -9.80% จากจุดสูงสุดประวัติการณ์ 3 ม.ค. การพักฐาน (consolidation) อย่างมีนัยสำคัญครั้งนี้ส่งผลให้หุ้นเติบโตสูงขนาดใหญ่คุณภาพดี “ของเลอค่า” หลายต่อหลายตัว “ลดราคา” ลงมามากจนน่าสนใจเข้าไปจับจองเป็นเจ้าของ ยกตัวอย่างหลักทรัพย์ 10 อันดับแรก (สิ้นปี 2021) ของ 2 กองทุนหลักที่เข้าข่ายดังกล่าวคำนวณราคาตลาดเมื่อวันศุกร์ KT-US (กองทุนเปิดเคแทม ยูเอส โกรท อิควิตี้ ฟันด์) เน้นลงทุนในบริษัทสหรัฐขนาดใหญ่เติบโตสูง (Large Cap Growth) ด้วยความสามารถทำกำไร (profitability) และโอกาสลงทุนต่อในธุรกิจ (reinvestment opportunity) มีหุ้น 6 ตัวลดราคาแรงเกิน -10% จากจุดพีคล่าสุดและครึ่งหนึ่งของ top-10 มีค่า P/E < 30x ถือว่าไม่แพงสำหรับบริษัทระดับนี้
กองทุนเปิดเคแทม Global Sustainable Growth Equity (KT-GESG) กองทุนหลักเน้นบริษัททั่วโลกที่มีการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว (sustainable growth) โดยนำปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG) มาประกอบการวิเคราะห์ลงทุน เมื่อพิจารณาราคาล่าสุดของ top-10 ด้วยวิธีเดียวกันพบ 7 หลักทรัพย์มีค่า P/E < 30x (มี 2 ตัวไม่ถึง 20x) นอกจากนี้ส่วนใหญ่ปรับตัวลงเบากว่า -10% สอดคล้องกับผลวิจัยหลายชิ้นในอดีตซึ่งบ่งชี้ว่า “หุ้นยั่งยืน” (ESG stocks) มักเป็นที่ต้องการท่ามกลางความผันผวนและไม่แน่นอน
KT-GESG (ระดับความเสี่ยงกองทุน 6) เสนอขายครั้งแรก IPO วันที่ 1 – 8 กุมภาพันธ์ 2022
ไอเดียกองทุนรวมมีให้ทุกวัน ผู้สนใจเชิญรับชม Fund Today by KTAM ทุกเช้าวันทำการเริ่มเวลา 8:45 น. สามารถพิมพ์คำถามทางไลฟ์ Facebook: KTAM Smart Trade หรือรับฟังและร่วมพูดคุยใน Clubhouse: KTAM Smart Trade สดพร้อมกันสองช่องทาง นอกจากนี้ยังมีคลิปให้ดูย้อนหลังได้ที่ Youtube: KTAM TV ONLINE
#คุยทุกวันฟันทุกเช้า #ฟันทูเดย์845
คำเตือน: ความเห็นส่วนบุคคล ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน คู่มือการลงทุน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน