PTTEP กำไร 3.9 หมื่นล.พุ่ง 68% ปี64 จ่ายเงินปันผลอีก 3 บาท

HoonSmart.com>>ปตท.สผ.โชว์ผลงาน ปี 64 มีรายได้รวม 234,631  ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37% จากปริมาณขายเติบโต 18% ราคาขายผลิตภัณฑ์สูงขึ้นตามราคาน้ำมัน  เผยความสำเร็จมาจากขยายการลงทุนต่างประเทศ หนุนการเติบโตในปี 65  คาดราคาน้ำมันอยู่ที่ 65-85 เหรียญ/บาร์เรล ปริมาณขายเฉลี่ยประมาณ 467 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน  บอร์ดอนุมัติแจกเงินปันผลทั้งปี 5 บาท จ่ายครึ่งปีหลังอีก 3 บาท ผลตอบแทน 2.36% 

บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม หรือ ปตท.สผ.(PTTEP) เปิดเผยว่า ในปี 2564 บริษัทมีกำไรสุทธิ 1,211 ล้านดอลลาร์ สรอ. (เทียบเท่า 38,864 ล้านบาท) กำไรต่อหุ้น 9.70 บาท เพิ่มขึ้น 68% จากปี 2563 ซึ่งมีกำไรสุทธิ 720 ล้านดอลลาร์ สรอ. (เทียบเท่า 22,664 ล้านบาท) และกำไรต่อหุ้น 5.65 บาท

นายมนตรี ลาวัลย์ชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม เปิดเผยถึงความสำเร็จจากการดำเนินงานในปี 2564 ซึ่งเป็นไปตามแผนกลยุทธ์ที่วางไว้ แม้จะยังคงเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19   โดยประสบความสำเร็จในการเข้าร่วมทุนในโครงการโอมาน แปลง 61 ซึ่งเป็นแหล่งผลิตก๊าซธรรมชาติขนาดใหญ่ของประเทศโอมาน รวมถึงการเริ่มผลิตก๊าซธรรมชาติในโครงการมาเลเซีย แปลงเอช ซึ่งช่วยเพิ่มปริมาณขายได้อย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้ปริมาณขายปิโตรเลียมเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 18% มาอยู่ที่ 416,141 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน  เมื่อเทียบกับ 354,052 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวันของปีก่อน ประกอบกับราคาขายผลิตภัณฑ์เฉลี่ยสูงขึ้นจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ส่งผลให้ในปี 2564 ปตท.สผ. มีรายได้รวม 7,314 ล้านดอลลาร์ สรอ. (เทียบเท่า 234,631 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น  37% จากปี 2563 ซึ่งมีรายได้รวม 5,357 ล้านดอลลาร์ สรอ. (เทียบเท่า 167,418 ล้านบาท)

บริษัทยังคงสามารถรักษาระดับต้นทุนต่อหน่วย (Unit cost) ที่ 28.52 ดอลลาร์ สรอ. ต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ และมีอัตรากำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคาที่  73% ซึ่งเป็นไปตามที่เป้าหมายที่วางไว้ อย่างไรก็ตาม บริษัทมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากรายการที่ไม่ใช่การดำเนินงานปกติ โดยหลักมาจากการตั้งด้อยค่าของสินทรัพย์ (Impairment) ในโครงการโครงการโมซัมบิก แอเรีย 1 จากการปรับแผนการพัฒนา เนื่องจากความไม่สงบภายในประเทศโมซัมบิก รวมถึง ผลขาดทุนจากการประกันความเสี่ยงราคาน้ำมัน

ในปี 2564 ปตท.สผ. สามารถลดความเข้มของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมการดำเนินงานต่าง ๆ ได้ในปริมาณ 365,177 ตันคาร์บอนไดออกไซด์

“ความสำเร็จในการดำเนินงานส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการขยายการลงทุนในต่างประเทศ ทั้งในมาเลเซีย และภูมิภาคตะวันออกกลาง ส่งผลให้การดำเนินงานเติบโตตามเป้าหมาย และยังคงส่งผลต่อเนื่องมาถึงปีนี้ด้วย”นายมนตรีกล่าว

สำหรับแผนงานหลักในปี 2565  ปตท.สผ. จะให้ความสำคัญกับกระบวนการเปลี่ยนผ่านการดำเนินการในแปลงจี 1/61 หรือแหล่งเอราวัณ ซึ่งบริษัทจะเข้าเป็นผู้ดำเนินการในเดือนเม.ย.นี้ เพื่อให้การผลิตก๊าซฯ ให้กับประเทศเป็นไปอย่างราบรื่น และจะพยายามอย่างเต็มความสามารถเพื่อทำให้อัตราการผลิตก๊าซธรรมชาติซึ่งลดลงอย่างต่อเนื่องในขณะนี้เพิ่มสูงขึ้น เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับความต้องการใช้ก๊าซฯ ของประเทศไทย

ส่วนแผนงานในต่างประเทศ ปตท.สผ.คาดว่าจะเริ่มการผลิตครั้งแรกในโครงการแอลจีเรีย ฮาสสิ เบอร์ ราเคซ ได้ในเร็ว ๆ นี้ รวมทั้งจะเร่งพัฒนาแหล่งปิโตรเลียมต่าง ๆ ที่บริษัทสำรวจพบในประเทศมาเลเซีย นอกจากนี้ ยังศึกษาความเป็นไปได้สำหรับโครงการดักจับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และนำไปกักเก็บในอ่าวไทย (Carbon Capture Storage – CCS) ตามนโยบายที่มุ่งสู่การเป็นองค์กรคาร์บอนต่ำในอนาคต

ปตท.สผ.คาดราคาน้ำมันดิบในปี 2565 อยู่ที่ 65-85 เหรียญ/บาร์เรล ปริมาณการขายเฉลี่ยสำหรับไตรมาส 1 และทั้งปี 2565 ที่ประมาณ 436 และ 467 บาร์เรลเทียบเท่า
น้ำมันดิบต่อวัน ตามลำดับ เติบโตจากปี2564 จากการรับรู้ยอดขายเต็มปีเป็นปีแรกของโครงการมาเลเซียแปลงเอชและโครงการโอมานแปลง 61 รวมถึงการเริ่มผลิตปิโตรเลียมของโครงการจี 1/61 และโครงการ แอลจีเรีย ฮาสสิ เบอร์ ราเคซ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มผลิตในช่วงต้นปี 2565 ด้วย

นายมนตรี กล่าวต่อว่า ในช่วงการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานของโลก ซึ่งมุ่งเน้นไปยังพลังงานสะอาดนั้น ปตท.สผ. ได้เตรียมพร้อม เพื่อจะมุ่งสู่การเป็นผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติโดยใช้เทคโนโลยีมาช่วยส่งเสริมให้เกิดพลังงานสะอาดมากขึ้น เช่น การศึกษาความเป็นไปได้ของการนำเทคโนโลยีการดักจับ และการกักเก็บคาร์บอนเข้ามาใช้ในแท่นผลิตก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย รวมทั้ง พลังงานรูปแบบใหม่ในอนาคต ซึ่งการดำเนินงานตามแผนกลยุทธ์นี้ จะช่วยให้ ปตท.สผ. สามารถดำเนินการผลิตก๊าซธรรมชาติเพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศได้อย่างต่อเนื่อง เสริมสร้างการเติบโต และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับ ปตท.สผ.ในอนาคต

ด้านคณะกรรมการบริษัทฯมีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลอีกหุ้นละ 3 บาท กำหนดวันขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 10 ก.พ. 2565 และจะจ่ายในวันที่ 18 เม.ย. 2565  ทั้งนี้ ปตท.สผ. ได้จ่ายสำหรับงวด 6 เดือนแรกไปแล้วในอัตรา 2 บาท   รวมทั้งปี 5 บาทต่อหุ้น  ทั้งนี้เงินปันผลหุ้นละ 3 บาท คิดเป็นอัตราผลตอบแทนประมาณ 2.36% เทียบกับราคาปิดที่ 127 บาท