ดาวโจนส์ปิดลบ 66 จุด วิตกดอกเบี้ย

HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดร่วง ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 66 จุด ท่ามกลางความผันผวนระหว่างวัน นักลงทุนคาดเฟดอาจส่งสัญญาณเร่งปรับนโยบายการเงินให้เข้มงวด ราคาน้ำมันดิบเด้งกว่า 2% ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 25 มกราคม 2565 ปิดที่ 34,297.73 จุด ลดลง 66.77 จุด หรือ 0.19% พ้นจากจุดต่ำสุดของวัน ท่ามกลางความผันผวน นักลงทุนคาดว่าการประชุมของธนาคารกลาง(เฟด) อาจส่งสัญญาณการเร่งปรับนโยบายการเงินให้เข้มงวด

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 4,356.45 จุด ลดลง 53.68 จุด, -1.22%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,539.30 จุด ลดลง 315.83 จุด, -2.28%

กลุ่มธนาคารและพลังงาน ซึ่งจะได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจนำและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่สูงขึ้น หนุนให้ตลาดปรับขึ้นจากระดับต่ำสุด โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นมาที่ 1.78% และทำให้หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีลดลง โดยหุ้นNvidia ลดลง 4.5% หุ้น ไมโครซอฟต์ลดลง 2.7% ก่อนแจ้งผลกำไรหลังตลาดปิด

หุ้นแบงก์ออฟอเมริกา หุ้นซิตี้กรุ๊ปต่างเพิ่มขึ้นราว 2% หุ้นออกซิเดนทัลปิโตรเลียมเพิ่มขึ้นกว่า 8%
หุ้นอเมริกันเอ็กซ์เพรสปรับขึ้น 8.9% จากผลการดำเนินงานที่ดีกว่าคาด
หุ้นเจนเนอรัล อิเล็คทริคลดลง 6% แม้กำไรดีกว่าคาดแต่รายได้พลาดเป้า

นักวิเคราะห์จากโกลด์แมนแซคส์ระบุว่า นักลงทุนยังจับตาการรายงานผลการดำเนินงานจากความคาดหวังว่าจะช่วยคลายกังวลต่อเงินเฟ้อ โดยใน 64 บริษัทใน S&P 500ซึ่งแจ้งผลการดำเนินงานมาแล้วนั้น มีผลการดำเนินงานที่ดีกว่าคาดแต่ก็ต่ำกว่า 52% ที่นักวิเคราะห์คาด

นอกจากนี้บริษัทไม่ได้มีการประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงาน ท่ามกลางเงินเฟ้อที่คาดการณ์ไม่ได้และผลจากการระบาดของไวรัส

นักลงทุนรอผลการประชุมของเฟดที่จะแถลงในวันนี้ตามเวลาสหรัฐฯ ซึ่งตลาดรอว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยเมื่อไรและขึ้นเท่าไร และคาดว่าเฟดจะส่งสัญญานขึ้นดอกเบี้ยเร็วสุดในเดือนมีนาคมและดำเนินนโยบายการเงินเข้มงวดมากขึ้นเพื่อควบคุมเงินเฟ้อที่สูง

สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียกับยูเครนยังคงมีผลต่อตลาด

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดคาดการณ์การเติบโตเศรษฐกิจโลกในปีนี้เป็น 4.4% จากเดิม 4.9%

เอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส ชิลเลอร์ รายงานผลสำรวจดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้น 18.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

Conference Board รายงานผลสำรวจ ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเดือนมกราคมลดลงมาที่ระดับ 113.8 จาก 115.2 ในเดือนธันวาคม

ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น นำโดยกลุ่มธนาคารที่เพื่มขึ้น 2.9% จากผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน ขณะที่นักลงรอผลการประชุมของ
ธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) และกังวลต่อสถานการณ์ความตึงเครียดในยูเครน

ผลการดำเนินงานที่ดีกว่าคาดส่งผลให้ หุ้น Ericsson เพิ่มขึ้น 8% หุ้น Logitech เพิ่มขึ้น 6%

Ifo รายงานผลสำรวจความเชื่อมั่นธุรกิจเดือนมกราคมในเยอรมนีเพิ่มขึ้นมาที่ 95.7 จาก 94.8 เดือนธันวาคมซึ่งดีกว่าคาด

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 459.59 จุด เพิ่มขึ้น 3.23 จุด, +0.71%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,371.46 จุด เพิ่มขึ้น 74.31 จุด, +1.02%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,837.96 จุด เพิ่มขึ้น 50.17 จุด, +0.74%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,123.87 จุด เพิ่มขึ้น 112.74 จุด, +0.75%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนมีนาคมเพิ่มขึ้น 2.29 ดอลลาร์ หรือ 2.8% ปิดที่ 85.60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้น 1.93 ดอลลาร์ หรือ 2.2% ปิดที่ 88.20