KYE เปิดซื้อหุ้นคืนพิสดาร จ่ายสูง 440 บาทให้ผู้ถือหุ้น

โครงการซื้อหุ้นคืนระบาด KYE ใจดี บอร์ดอนุมัติวงเงิน 968 ล้านบาท ซื้อจากผู้ถือหุ้นจำนวน 2.2 ล้านหุ้น ให้ราคาสูงถึง 440 บาท ตั้งแต่วันที่ 1-19 ต.ค.นี้ บริษัทมีกำไรสะสมเยอะเกือบ 5 พันล้านบาท ไม่มีหนี้สั้น

นายประพัฒน์ โพธิวรคุณ ประธานกรรมการ บริษัท กันยงอีเลคทริก (KYE) เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทฯมีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน กำหนดวงเงินสูงสุด 968 ล้านบาท ในการซื้อหุ้นคืนไม่เกิน 2.2 ล้านหุ้น คิดเป็น 10% ของทุนเรียกชำระแล้ว โดยเป็นการเสนอซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นทั่วไป ในราคาหุ้นละ 440 บาท เริ่มตั้งแต่วันที่ 1-19 ต.ค.2561

“บริษัทเสนอซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นในราคาที่มีส่วนเพิ่มประมาณ 10% ของราคาเฉลี่ย 30 วัน และเนื่องจากหุ้นที่จะซื้อคืนมีไม่เกิน 10% คณะกรรมการจึงมีอำนาจตัดสินใจในการดำเนินการซื้อ โดยไม่ต้องได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น ” นายประพัฒน์ระบุ

ทั้งนี้ราคาหุ้นเฉลี่ยย้อนหลัง 30 วัน (19 ก.ค.-3 ก.ย.2561) เท่ากับ 400 บาท ส่วนราคาในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยวันที่ 4 ก.ย.ปิดทื่ 418 บาท บวก 10 บาท หรือ 2.45%

การเปิดโครงการซื้อหุ้นคืน บริษัทมีความสามารถในการชำระหนี้ เมื่อพิจารณาจากฐานะการเงิน ณ วันที่ 30 มิ.ย. 2561 มีกำไรสะสม 5,017 ล้านบาท ก่อนจ่ายเงินปันผล 360 ล้านบาท คงเหลือ 4,657 ล้านบาทและไม่มีหนี้สินที่ถึงกำหนดชำระภายใน 6 เดือน

นอกจากนี้ บริษัทมีสินทรัพย์หมุนเวียนจำนวน 6,149 ล้านบาท สูงกว่าหนี้สินหมุนเวียนที่มีจำนวน 1,158 ล้านบาท ทำให้บริษัทมีสินทรัพย์หมุนเวียนคงเหลือสุทธิ 4,991 ล้านบาท แสดงให้เห็นว่า บริษัทมีสภาพคล่องเพียงพอในการชำระหนี้ รวมถึงยังมีกระแสเงินสดสุทธิจากการดำเนินงาน จำนวน 83 ล้านบาท มีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดจำนวน 1,597 ล้านบาท

สำหรับผู้ถือหุ้นรายย่อย (Free float) มีจำนวน 2,215 ล้านบาท คิดเป็น 7,699,434 หุ้น เท่ากับ 35% ของทุนชำระแล้ว ขณะที่กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ถือหุ้นรวมทั้งสิ้น 64.99% หรือจำนวน 14.29 ล้านหุ้น ณ วันที่ 28 มิ.ย. 2561

ทางด้านผลการดำเนินงานงวดไตรมาสที่ 1 สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.2561 มีกำไรสุทธิ 32 ล้านบาท ทรุดลงถึง 79% เมื่อเปรียบเทียบกับที่มีกำไรสุทธิ 154 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันปีก่อน

ในช่วงนี้ มีบริษัทจดทะเบียนจัดโครงการซื้อหุ้นคืนจำนวนมาก หลังจากราคาหุ้นปรับตัวลง ขณะที่บริษัทมีสภาพคล่องสูง เช่น บริษัท ทาพาโก้(TAPAC) กำหนดวงเงินสูงสุดไม่เกิน 60 ล้านบาท ในการซื้อหุ้นคืนไม่เกิน 7.72 ล้านหุ้น คิดเป็น 1.871% บริษัท แม็คกรุ๊ป (MC) ซื้อหุ้นคืนในวงเงินไม่เกิน 120 ล้านบาท ไม่เกิน 8 ล้านหุ้น ไม่เกิน 1% บริษัท การบินกรุงเทพ (BA) จะซื้อหุ้นคืนจำนวน 40 ล้านหุ้น หรือ 1.9% วงเงินรวม 500 ล้านบาท