ดาวโจนส์ปิดร่วง 313 จุด กังวลดอกเบี้ย ยื่นรับสวัสดิการว่างงานพุ่ง

HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ลงต่อ ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบ 313 จุด นักลงทุนยังกังวลแนวโน้มดอกเบี้ยปรับสูงขึ้น กลบผลดำเนินงานบริษัทจดทะเบียนออกมาดีกว่าคาด ด้านตัวเลขยื่นรับสวัสดิการว่างงานพุ่ง ราคาน้ำมันดิบลดลง 6 เซนต์ ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปิดบวก

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 20 มกราคม 2565 ปิดที่ 34,715.39 จุด ลดลง 313.26 จุด หรือ 0.89% อ่อนตัวลงจากที่ปรับขึ้นในช่วงแรกของวัน เพราะนักลงทุนยังกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น แม้ผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนดีกว่าคาด

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 4,482.73 จุด ลดลง 50.03 จุด, -1.10%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,154.02 จุด ลดลง 186.23 จุด, -1.30%

หุ้น Peloton Interactive ลดลง 23.9% จากรายงานข่าวว่า บริษัทระงับการผลิตอุปกรณ์ออกกำลังกายเนื่องจากดีมานด์ชะลอตัวลง

ในกลุ่มเทคโนโลยีทั้ง ซูมวิดีโอ และ เทสลา นำการปรับขึ้นตลอดทั้งวัน แต่มีหุ้นหลายตัวอ่อนตัวลงในท้ายตลาด หุ้นเน็ตฟลิกซ์ลดลง 1.5% ก่อนรายงานผลการดำเนินงานหลังตลาดปิด

ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ยังเพิ่มขึ้น แม้ส่วนหนึ่งของตลาดรับข่าวการเตรียมปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลาง (เฟด)
เฟดมีกำหนดประชุมในสัปดาห์หน้า ซึ่งตลาดคาดว่ามีโอกาสน้อยที่จะขึ้นดอกเบี้ย อย่างไรก็ตามนักลงทุนรับข่าวไปแล้วว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 4 ครั้ง ครั้งละ 0.25% ตลอดทั้งปี 2022

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปีซึ่งสัมพันธ์กับอัตราดกเบี้ยนโยบายของเฟดปรับขึ้นมาที่ 1.04% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี แตะระดับ 1.87%

ประธานาธิบดีโจ ไบเดนซึ่งแถลงข่าวในโอกาสการทำหน้าที่ครบ 1 ปี กล่าวว่า การควบคุมเงินเฟ้อเป็นภารกิจของเฟด
เรีย โทมัส จาก Wilmington Trust มองว่า เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 2-3 ครั้งในปีนี้

บริษัทจดทะเบียนหลายแห่งรายงานผลการดำเนินงาน โดยกลุ่มเดินทางมีผลกำไรและรายได้ดีกว่าคาดและปรับขึ้น 3.2% แต่อเมริกันแอร์ไลน์ลดลง 3.2% หลังปรับคาดการณ์ผลประกอบการลดลง หุ้นยูไนเต็ดแอร์ไลน์ลดลง 3.4% หลังแจ้งผลประกอบการและเตือนว่าการระบาดของไวรัสโอมิครอนกระทบการจองตั๋วและทำให้การฟื้นตัวชะลอออกไป

กระทรวงแรงงานรายงานการยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 286,000 ราย สูงสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2021 เพิ่มขึ้นจาก 231,000 ราย ในสัปดาห์ก่อนหน้า และสูงกว่า 225,000 ราย ที่นักวิเคราะห์คาด

สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติ (NAR) รายงาน ยอดขายบ้านมือสองเดือนธันวาคมลดลง 4.6% มาที่ระดับ 6.18 ล้านยูนิตจากเดือนก่อนหน้า และลดลง 7.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

เคที บอสต์ยานซิก จาก Oxford Economics กล่าวว่า การยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกที่เพิ่มขึ้นและยอดขายบ้านมือสองที่ลดลง ช่วยทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอ่อนตัวลง ซึ่งอาจจะบ่งชี้ได้ว่าเฟดอาจจะไม่ได้ปรับขึ้นดอกเบี้ยเชิงรุกและการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนมีนาคมนั้นแผ่วลง
แต่ตลาดจะยังคงผันผวนจากความไม่แน่นอนที่สูงขึ้นทั้งจากภาวะเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ และแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย

ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น นำโดยกลุ่มเดินทางและสันทนาการ ที่เพิ่มขึ้น 2.7% แม้มีการรายงานข้อมูลเงินฟ้อยูโรโซน และการรายงานผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน

เงินเฟ้อยูโรโซนเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้น 5% จากระยะเดียวกันของปีก่อนและสูงขึ้นจาก 4.9% ในเดือนพฤศจิกายน ส่วนเงินเฟ้อสหภาพยุโรปเพิ่มขึ้น 5.3% เมื่อเทียบรายปี

นางคริสตีน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางสหภาพยุโรป(European Central Bank :ECB) กล่าวว่า เงินเฟ้อจะค่อยๆลดลงในปีนี้ เพราะคาดว่าราคาน้ำมันดิบที่สูงขึ้นและปัญหาคอขวดในห่วงโซ่อุปทานจะคลี่คลาย

หุ้น Zur Rose Group ผู้จำหน่ายยาออนไลน์ของสวิตเซอร์แลนด์เพิ่มขึ้น 5.4% หลังแจ้งผลกำไร ส่วน Deliveroo ผู้ให้บริการฟูด้ส์เดลิเวอร์ในอังกฤษเพิ่มขึ้น 1.4% จากมูลค่าคำสั่งซื้อโดยรวมปี 2021 เพิ่มขึ้น 70%

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 483.21จุด เพิ่มขึ้น +2.31 จุด, +0.48%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,585.01 จุด ลดลง 4.65 จุด, -0.06%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,194.16 จุด เพิ่มขึ้น 21.18 จุด, +0.30%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,912.33 จุด เพิ่มขึ้น 102.61 จุด, +0.65%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 6 เซนต์ ปิดที่ 86.90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมีนาคมลดลง 6 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 88.38 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล