HoonSmart.com>> อุตสาหกรรมกองทุนรวมปี 64 เติบโต 3.31 แสนล้านบาท ขยายตัว 6.57% จากสิ้นปีก่อนมาแตะ 5.37 ล้านล้านบาท รับอานิงส์หุ้นทั่วโลกส่วนใหญ่เพิ่มขึ้น ผสมเม็ดเงินไหลเข้าลงทุนกองทุนหุ้น หนุนมูลค่าทรัพย์สินกองทุนหุ้นพุ่งเกือบ 25% กว่า 3.6 แสนล้านบาท ด้านกองทุน FIF โตต่อเนื่องเกือบ 28% มูลค่าแตะ 1.23 ล้านล้านบาท ส่วนกองทุนประหยัดภาษี SSF โตแรงจากฐานต่ำ ฟาก RMF เพิ่มขึ้น 19% ด้าน “บลจ.กสิกรไทย” ยังครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุดทะลุ 1 ล้านล้านบาทเพียงรายเดียว
สมาคมบริษัทจัดการกองทุน (AIMC) เปิดเผยมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวมทั้งระบบในรอบปี 2564 สิ้นสุด 30 ธ.ค.ที่ผ่านมา มีมูลค่ารวม 5,368,924 ล้านล้านบาท เติบโต 331,138 ล้านบาท หรือ 6.57% จากสิ้นปี 2563 โดยมูลค่าทรัพย์สินจากการลงทุนในกองทุนหุ้นยังคงเติบโตโดดเด่น 360,717 ล้านบาท หรือ 24.88% ส่งผลให้มูลค่าทรัพย์สินเพิ่มขึ้นเป็น 1,810,753 ล้านบาท จาก รองลงมากองทุนประเภทอื่นๆ เพิ่มขึ้น 11,732 ล้านบาท หรือ 9.47% จากสิ้นปีก่อน กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น 13,032 ล้านบาท หรือ 6.78% และกองทุนรวมผสมเพิ่มขึ้น 16,282 ล้านบาท หรือ 4.23%
ขณะที่กองทุนตราสารหนี้มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิลดลง 47,966 ล้านบาท หรือ -2.06% จากสิ้นปีก่อนลงมาอยู่ที่ 2,257,915 ล้านบาท กองทุนอสังหาริมทรัพย์ (กอง 1) ลดลง 14,972 ล้านบาท หรือ -11.84% กองทุนโครงสร้างพื้นฐานลดลง 7,255.05 ล้านบาท หรือ -1.80%
ด้านกองทุนรวมเพื่อไปลงทุนต่างประเทศ (FIF) ยังคงมีการเติบโตต่อเนื่อง มูลค่าทรัพย์สินสุทธิอยู่ที่ 1,234,518 ล้านบาท เติบโต 268,596 ล้านบาท หรือ 27.81% โดยกองทุน FIF มีการลงทุนในหุ้นสูงสุดและเติบโตถึง 64.77% หรือ 236,592 ล้านบาท ส่งผลให้มูลค่าทรัพย์สินสุทธิเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 601,865 ล้านบาท ส่วนกองทุน FIF ที่มีนโยบายลงทุนแบบผสมเพิ่มขึ้น 28.39% หรือ 36,605 ล้านบาท ส่งผลให้มูลค่าทรัพย์สินสุทธิเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 165,555 ล้านบาท ส่วนกองทุน FIF ที่ลงทุนในตราสารหนี้มูลค่าเพิ่มขึ้นเพียง 1,846 ล้านบาท หรือ 0.43% ส่งผลให้มูลค่าทรัพย์สินอยู่ที่ 430,454 ล้านบา
ขณะที่กองทุนรวมตลาดเงิน หรือมันนี่ มาร์เก็ต มูลค่าลดลง 52,571 ล้านบาท หรือ -16.26% อยู่ที่ 270,690 ล้านบาท จาก 323,261 ล้านบาท
กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 390,570 ล้านบาท เติบโต 62,970 ล้านบาท หรือ 19.22% จากสิ้นปีก่อนหน้า ส่วนกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) อยู่ที่่ 365,565 ล้านบาท เติบโต 18,275 ล้านบาท หรือ 5.26% จากสิ้นปีก่อนและกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) อยู่ที่ 36,198 ล้านบาท เติบโต 16,712 ล้านบาท หรือ 85.76%
ด้านบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย ยังครองส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดและเป็นรายเดียวที่มูลค่าทะลุ 1 ล้านล้านบาท อยู่ที่ 1,171,958 ล้านบาท ส่วนแบ่ง 21.83% อันดับสอง บลจ.ไทยพาณิชย์ มูลค่า 943,584 ล้านบาท ส่วนแบ่ง 17.57% อันดับสาม บลจ.บัวหลวง มูลค่า 766,932 ล้านบาท ส่วนแบ่ง 14.28% อันดับสี่ บลจ.กรุงไทย มูลค่า 686,359 ล้านบาท ส่วนแบ่ง 12.78% และอันดับห้า บลจ.กรุงศรี มูลค่า 431,004 ล้านบาท ส่วนแบ่ง 8.03%