Eastspring เปิดขาย “กองทุนหุ้นเวียดนาม” ดาวรุ่งเอเชียรับเศรษฐกิจเติบโต

HoonSmart.com>> กลุ่ม Eastspring เปิดตัวกองทุน “ทีเอ็มบี อีสท์สปริง Vietnam Active Equity” ลงทุนหุ้นเวียดนาม ชี้ 4 ปัจจัยหนุนเศรษฐกิจและตลาดหุ้นเติบโต มีลุ้นขยับจาก Frontier Market ไปสู่ Emerging Market แนะกระจายลงทุน 5-10% ของพอร์ต ด้าน “ดร.นิเวศน์” นักลงทุน VI ผู้บุกเบิกตลาดหุ้นเวียดนาม มองโอกาสเติบโตอย่างน้อย 10 ปี เปิดขาย IPO ตั้งแต่ 12-18 ม.ค.นี้

นายอดิศร เสริมชัยวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย (TMBAM Eastspring) และบลจ.ธนชาต (Thanachart Fund Eastspring) กล่าวว่า ปีที่ผ่านมาเวียดนามถือเป็นตลาดที่ให้ผลตอบแทนดีมาก และโดยส่วนตัวก็เชื่อว่าเวียดนามยังมีอนาคตและมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก แม้ปัจจุบันตลาดหุ้นเวียดนามจะถูกจัดอยู่ในกลุ่ม Frontier Market แต่จากการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดในช่วงที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นเม็ดเงินลงทุนต่างประเทศและกฎหมายที่เอื้อต่อการลงทุน ทำให้มั่นใจได้ว่าตลาดหุ้นเวียดนามมีโอกาสจะขยับจาก Frontier Market ไปสู่ Emerging Market ได้ในไม่ช้านี้

ทั้งนี้ TMBAM Eastspring จัดสัมมนาออนไลน์ “VIETNAM…ASIA’S RISING STAR เปิดมุมมองลงทุนหุ้นเวียดนาม” เมื่อวันที่ 11 ม.ค.2564 ที่ผ่านมา พร้อมเปิดตัวทีเอ็มบี อีสท์สปริง Vietnam Active Equity (TMB-ES-VIETNAM)

ด้านดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร สุดยอด VI และผู้บุกเบิกลงทุนหุ้นเวียดนาม กล่าวว่า หุ้นเวียดนามไว้อย่างน่าสนใจว่า 10 ปีที่ผ่านมาถือเป็นปีทองของเวียดนาม และเชื่อว่าเป็นการเติบโตที่ค่อนข้างมีเสถียรภาพ แต่ละปีมีผลตอบแทนติดลบเฉลี่ยไม่เกิน 10% และปัจจุบันมีการเติบโตถึง 4 เท่าแล้ว ดังนั้นหากถามว่าตอนนี้หุ้นเวียดนามแพงไปหรือยัง ก็มองว่าเวียดนามยังมีโอกาสเติบโตต่อได้อีกอย่างน้อย 10 ปี

“ส่วนตัวการลงทุนหุ้นเวียดนามในระยะแรกๆ ตอนที่ตัดสินใจลงทุน เพียงแค่อยากจะกระจายลงทุนจึงเริ่มมองดูหุ้นทั่วอาเซียนว่าประเทศไหนน่าสนใจลงทุนบ้าง และก็เริ่มกระจายลงทุนในหุ้นเวียดนาม โดยในระยะแรกเน้นเฉพาะหุ้นเวียดนามที่มีราคาถูกตามแนวคิดแบบ Value Investor แต่ปัจจุบันเริ่มเข้าลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ ลักษณะ Super Stock มีการวิเคราะห์พื้นฐานและโอกาสของแต่ละบริษัทที่ลงทุนมากขึ้นยิ่งกว่าเอดีต ทำให้พอร์ตปัจจุบันพอร์ตลงทุนสามารถรักษาระดับการเติบโตได้อย่างมีเสถียรภาพกว่าเดิม”ดร.นิเวศน์ กล่าว

นายบดินทร์ พุทธอินทร์ ผู้อำนวยการส่วนกลยุทธ์การลงทุน TMBAM Eastspring กล่าวเสริมว่า หุ้นเวียดนามมี 4 ปัจจัยหลัก ที่ทำให้ความน่าสนใจลงทุนอยู่ในระดับที่สูงมาก อย่างปัจจัยด้านมหภาค จะพบว่าเวียดนามเป็นประเทศที่เติบโตมากที่สุดในอาเซียนในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา และเชื่อว่าขนาดเศรษฐกิจของเวียดนามอาจโตขึ้นอันดับ 3 ในอาเซียนในเวลาไม่กี่ปีต่อจากนี้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้เม็ดเงินลงทุนตรงหรือ FDI เติบโตได้ต่อเนื่อง และยังคงดึงดูดเม็ดเงินจากนักลงทุนต่างชาติได้ เนื่องจากความได้เปรียบเรื่องต้นทุนการผลิตด้านแรงงาน

นอกจากนั้น เวียดนามยังมีปัจจัยพื้นฐานที่ดึงดูดการลงทุนสูงมาก โดยพบว่าในปัจจุบันค่าเงินของเวียดนามมีเสถียรภาพมากขึ้น จากทุนสำรองที่อยู่ในระดับสูง ประกอบกับมาตรการภาษีที่จูงใจทั้งภาษีนิติบุคคล และภาษีเขตเศรษฐกิจพิเศษ ยิ่งทำให้เสน่ห์ของเวียดนามหอมหวานมากขึ้น และพบว่าข้อตกลงทางการค้า ( FTA) ที่เป็นพื้นฐานการสนับสนุนการค้าระหว่างประเทศของเวียดนามนั้นครอบคลุมกว่า 50 ประเทศ ซึ่งสูงกว่าไทยพอสมควร

อีกปัจจัยที่สำคัญ คือ เวียดนามมีศักยภาพการเติบโตที่สูงมาก เวียดนามมีการลงทุนในด้านโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจในอนาคตในอัตราที่สูงมาก และโดยส่วนตัวคาดการณ์ว่าในอีก 5 ปี เวียดนามมีโอกาสเข้าร่วมใน MSCI EMERGING MARKETS INDEX ยิ่งตอกย้ำความมั่นใจว่าเวียดนามจะสามารถเติบโตได้ต่อเนื่องต่อไป

นายบดินทร์ กล่าวถึงปัจจัยสุดท้ายที่สนับสนุนการลงทุนในหุ้นเวียดนาม ว่า ปัจจุบันการเติบโตของกลุ่ม ธนาคาร อสังหาฯ ก่อสร้าง สาธารณูปโภค ในเวียดนามนั้นโดดเด่นมาก เนื่องจากเป็นช่วงการเติบโตแบบ S Curve และ EPS GROWTH ยังสามารถเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้เวียดนามมีความน่าสนใจในระยะยาว เมื่อเทียบกับการเติบโตของกำไร ระดับมูลค่า และความผันผวน นอกจากนั้นหุ้นเวียดนามมีความสัมพันธ์กับแต่ละสินทรัพย์ในระดับต่ำ ทำให้เหมาะกับการกระจายการลงทุนประมาณ 5-15% ของพอร์ตการลงทุน

นายพงศ์สรร ยอดเมืองเจริญ, CFA, FRM ผู้อำนวยการส่วนบริหารผลิตภัณฑ์ TMBAM Eastspring เปิดเผยว่า กองทุน ทีเอ็มบี อีสท์สปริง Vietnam Active Equity จะเปิดขายครั้งแรก (IPO) ในระหว่างวันที่ 12-18 ม.ค.นี้ นมีนโยบายเน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทที่จดทะเบียนในเวียดนาม และจัดตั้งกองเป็นแบบ Fund of Funds ซึ่งปัจจุบันเน้นลงทุนใน 2 กองทุนหลัก คือ กองทุนVietnam Equity (UCITs) ในสัดส่วนประมาณ 75% และ Lumen Vietnam (UCITs) ในสัดส่วนประมาณ 25% โดยทั้ง 2 กองทุนต่างมีจุดเด่นที่เมื่อนำมาผสาน จึงเกิดเป็นความลงตัวอย่างมาก และเชื่อว่าจากการคัดสรรหุ้นคุณภาพของ 2 กองทุนหลัก จะสามารถสร้างโอกาสให้พอร์ตลงทุนเติบโตได้ต่อเนื่อง (ความเสี่ยงกองทุนระดับ 6 จาก 8)

สำหรับ Vietnam Equity (UCITs) ซึ่งเป็นกองทุนหลัก บริหารจัดการกองทุนโดย DRAGON capital จะเน้นวิเคราะห์งบการเงิน ปัจจัยเชิงคุณภาพ และโอกาสเติบโตของแต่ละบริษัท และเมื่อได้หุ้นที่ต้องการ จะนำมาวิเคราะห์ปัจจัยทางเทคนิค และตลาด รวมไปถึงวิเคราะห์ความถูกแพงเพื่อให้ได้หุ้นประมาณ 25-35 ตัวเข้าพอร์ตลงทุน

ส่วน Lumen Vietnam (UCITs) – share class USD – I กองทุนหลักอีกหนึ่งกองนั้น มีนโยบายเน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทที่อยู่ในประเทศเวียดนามหรือเกี่ยวข้องกับประเทศเวียดนามโดยมีการใช้ปัจจัยด้าน ESG และธรรมาภิบาลของบริษัทเข้ามาร่วมพิจารณาในการลงทุนเพื่อมุ่งหวังให้การลงทุนสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวได้อย่างยั่งยืน